10 ดีไซน์ตู้เสื้อผ้าเปิดง่ายใช้สะดวกมาก

1.ตู้เสื้อผ้าดีไซน์เรียบง่าย

หากบ้านไหนมีเนื้อที่เยอะๆ การออกแบบให้มี walk in closet แยกออกจากห้องนอนนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เจ้าของบ้านใช้งานได้สะดวกและคล่องตัว อย่างตัวอย่างที่เราเห็นนี้ออกแบบโดย B FOR U BUILT-IN CLOSET เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ของใช้ในบ้าน นอกจากจะดีไซน์สวยให้อารมณ์สไตล์ญี่ปุ่น เนื่องจากใช้หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้ จึงดูอบอุ่นและดูใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ

ดีไซน์ของตู้เสื้อผ้าบิลต์อินชิดผนัง ออกแบบขนาดตู้สูงจรดฝ้า โดยชั้นบนสุดทำเป็นตู้เก็บของแบบทึบเอาไว้เก็บของที่ไม่ได้ใช้บ่อย จากนั้นก็ไล่ลำดับความสำคัญลงมา โดยทำเป็นราวแขวนเสื้อผ้าแบ่งเป็นครึ่งบนกับครึ่งล่าง ทำให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับเก็บเสื้อผ้าพับ และของใช้ส่วนตัว มีราวแขวนกางเกงที่สามารถเลื่อนออกจากตู้ได้ เรียกว่าใช้งานได้ง่ายทีเดียว

อีกมุมหนึ่งยังทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว เพิ่มความเป็นระเบียบและดูเป็นหมวดหมู่

2.ตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจกฝ้า

ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบเท่ และเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น กำหนดตำแหน่งของที่นอนอยู่กลางห้อง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทำเป็นงานบิลต์อินทั้งหมด ใช้พื้นที่ผนังทั้งสองด้านให้เกิดประโยชน์ ซึ่งวิธีนี้ไม่ทำให้เกะกะเนื้อที่เลยสักนิด ฝั่งหนึ่งออกแบบเป็น window seat ไว้นั่งเล่น ชมธรรมชาติด้านนอก ในขณะที่อีกฝั่งออกแบบเป็นตู้เสื้อผ้าบิลต์อินขนาดใหญ่ใช้เนื้อที่ผนังอย่างคุ้มค่า ดีไซน์หน้าบานเป็นแบบบานเลื่อน ซึ่งไม่กินเนื้อที่เวลาเปิดปิด และแทนที่จะทำหน้าบานเป็นบานทึบก็เปลี่ยนเป็นหน้าบานกระจกฝ้า ทำให้ห้องนอนดูไม่อึดอัดแถมยังมองเห็นของที่เก็บอยู่ภายในตู้แต่ก็ไม่ถึงกับชัดเจน สามารถซ่อนความไม่เป็นระเบียบได้ระดับหนึ่ง

3.ตู้เสื้อผ้าดีไซน์ลักซ์ชัวรี
หากใครให้ความสำคัญกับการแต่งตัว และมีเสื้อผ้า เครื่องประดับเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ทำ walk in closet แบบนี้ไปเลย เพราะใช้งานได้สะดวก เป็นอาณาเขตสำหรับการแต่งตัวโดยเฉพาะ ส่วนดีไซน์ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของห้อง อย่างตัวอย่างที่เราเห็นนี้เป็นตู้เสื้อผ้าสไตล์ลักซ์ชัวรี เน้นวัสดุที่หรูหรา มีความระยิบระยับ ไม่ว่าจะเป็นกระจกสีชาทอง โลหะที่เป็นสีทอง หรือแม้แต่การออกแบบตำแหน่งแสงไฟก็ช่วยเสริมให้บรรยากาศภายในห้องนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

4.ตู้เสื้อผ้าลายไม้
เราสามารถออกแบบตู้เสื้อผ้าโดยแบ่งกั้นเนื้อที่แยกออกไปแบบนี้ก็ดูเป็นระเบียบดีเหมือนกัน อาจจะดีไซน์เป็นลักษณะซุ้มประตูแล้วเพิ่มความโปร่งโดยทำเป็นชั้นโปร่ง โดยบิลต์อินตู้เสื้อผ้าไปกับผนัง ทำเป็นหน้าบานลายไม้สีน้ำตาลอ่อน ไม่มีมือจับ ดูสวยเรียบ เพิ่มช่องสำหรับเก็บของตรงช่องวางของด้านล่าง

5.ตู้เสื้อผ้าแบบไม่เป็นตู้
ถ้าชอบอะไรที่โมเดิร์นมากๆ จะลองออกแบบตู้เสื้อผ้าตามตัวอย่างนี้ก็ดูเท่ดีเหมือนกัน ทำผนังยื่นออกมาให้มีลักษณะเป็นเหมือนอีกห้องหนึ่ง แล้วติดตั้ง accessories อย่างชั้นวางของ ราวแขวน ตะแกรง เพื่อจัดเก็บของใช้ในรูปแบบต่างๆ

6.ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก
ถึงแม้เนื้อที่จำกัดก็ไม่เป็นปัญหาในการออกแบบตู้เสื้อผ้า ใช้ผนังให้เป็นประโยชน์ด้วยการบิลต์อินตู้เป็นรูปตัว L แบ่งฟังก์ชันใช้งานตามความต้องการให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแขวน เสื้อผ้าพับ ที่เก็บกระเป๋า เพิ่มลูกเล่นด้วยการทำตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีหน้าบานก็เก๋ไปอีกแบบ

7.walk in closet หรูหราทันสมัย
บ้านหลังนี้ออกแบบให้เป็นโซนสำหรับแต่งตัวโดยเฉพาะ ถึงแม้เนื้อที่จะดูกะทัดรัดแต่การเลือกวัสดุก็ช่วยให้มุมนี้ดูโปร่งและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว มีการนำกระจกมาเพิ่มมิติ รวมถึงการเล่นเส้นสายจากวัสดุที่เป็นเงาสะท้อน รวมถึงสีที่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา

8.ตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน
ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้านี้อยู่ตรงปลายเตียง ออกแบบค่อนข้างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน มีทั้งตู้ที่เป็นบานทึบและแบบไม่มีบานเปิดปิด สำหรับเก็บเสื้อผ้าที่หยิบใช้งานเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีลิ้นชักขนาดใหญ่รองรับไว้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

9.ตู้เสื้อผ้าขนาดกำลังดี
ถ้าอยู่คอนโดมิเนียมการออกแบบตู้เสื้อผ้าที่ใช้งานได้เวิร์คและไม่กินพื้นที่คือ การบิลต์อินไปกับผนัง แต่หากคุณเป็นคนขี้เบื่อจะลองใช้ตู้แบบลอยตัวก็ได้ แต่ฟังก์ชันค่อนข้างจำกัดกว่าการใช้ตู้แบบบิลต์อิน ซึ่งเราสามารถบอกความต้องการให้กับดีไซเนอร์ได้ตรงกับการใช้งาน

10.ตู้เสื้อผ้าบานเปิดปิด
หากห้องนอนมีเนื้อที่ไม่ใหญ่มากนัก แนะนำให้ออกแบบภายในเป็นบิลต์อินจะดีกว่า นอกจากสวยแล้วยังทำให้ห้องดูเป็นระเบียบ แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ได้ ต้องรื้อใหม่เท่านั้น ส่วนโทนสีที่แนะนำเน้นเป็นโทนเย็นจะดีที่สุด รวมถึงช่วยทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัด เช่นตัวอย่างของตู้เสื้อผ้าบิลต์อินในห้องนอนนี้ดีไซน์เป็นแบบบานเปิดปิด มือจับเซาะร่องลายไม้สลับกับหน้าบานสีขาว ดูเรียบๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความทันสมัยไม่น้อย