งานตกแต่งภายในขาวๆ คลีนๆ อยู่ได้ยาวๆ ไม่ล้าสมัย

ห้องนั่งเล่น
จะเห็นว่าเนื้อที่ในโซนนี้ค่อนข้างใหญ่และกว้างมากทีเดียว สามารถใส่ลูกเล่นได้ค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น การเดินเส้นสีทองบนฝ้าเพดาน ซึ่งทำเป็นฝ้าหลุม ใส่ไฟดาวน์ไลท์ ส่วนผนังทำเป็นตู้โชว์แบบบิลต์อิน เพิ่มความน่าสนใจด้วยการใส่ไฟ LED ทำให้ตู้ดูสว่างน่าสนใจ ส่วนมุมสำหรับดูทีวีทำผนังหินอ่อนเดินเส้นด้วยสีทอง ตกแต่งด้วยโซฟาสีเทาเข้มนั่งสบาย

โซนนั่งเล่นและโซนครัว
อีกหนึ่งมุมที่น่าสนใจก็คือ การเพิ่มมุมพักผ่อนโดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หนังสีเทา ถัดไปเป็นมุมครัว สไตล์โมเดิร์น เน้นการใช้งานแบบไม่หนักมาก กำหนดโทนสีครัวด้วยสีขาวทอปลายหินอ่อน เพิ่มความหรูหราให้ครัวดูทันสมัยไม่น้อยเลย

จุดเด่นของครัวนี้อยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวซึ่งทำเป็นบาร์สำหรับนั่งทานอาหารมื้อง่ายๆ มีเก้าอี้สตูลสีขาว ส่วนแปลนครัวกำหนดเป็นรูปตัว I ชิดผนังด้านหนึ่ง มีตู้แขวนแบบกรุกระจกทำให้ครัวดูไม่อึดอัด

ใช้แสงธรรมชาติเข้าช่วย
ข้อได้เปรียบของบ้านหลังนี้คือ การมีช่องหน้าต่างที่กว้างและใหญ่ ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่นหรือในห้องครัว ตกแต่งด้วยผ้าม่านโปร่งเวลามีแดดจัดส่องเข้ามา ด้านนอกเป็นสวนหย่อมปลูกต้นไม้สีเขียวเพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังทำให้ผู้อาศัยสามารถมองเห็นธรรมชาติแม้จะนั่งอยู่ภายในบ้าน

มุมพักผ่อนแบบส่วนตัว
ชั้นบนออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่นสำหรับคนในบ้านโดยเฉพาะ ด้วยการเพิ่มประโยชน์ให้โถงกลางบ้านกลายเป็นพื้นที่สันทนาการ จะนั่งดูทีวี พูดคุย นอนเล่นอ่านหนังสือ หรือเล่นมือถือก็เวิร์คมากเลยทีเดียว ส่วนดีไซน์การตกแต่งภายในก็ยังคงคอนเซ็ปต์ไม่ต่างจากชั้นล่าง เน้นสีขาวทั้งหมดแล้วแต่งแต้มบรรยากาศโดยรวมให้ดูทันสมัยหรูหราด้วยผนังลายหินอ่อน เพิ่มฟังก์ชันเก็บของด้วยการบิลต์เป็นตู้ทรงสูง ชั้นวางของเป็นลายไม้และมีตู้แบบเปิดปิดหน้าบานไฮกลอส

ชั้นลอยสำหรับไหว้พระ
ถัดขึ้นมาอีกมุมเป็นชั้นลอย มีไว้สำหรับไหว้พระ แถมยังออกแบบได้สวยงามอีกด้วย เรียกว่าเป็นมุมที่มีความเป็นสัดส่วนแยกจากโซนอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน

ห้องพระ
แน่นอนว่าสำหรับคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธจะต้องมีห้องพระไว้สำหรับสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์ การทำห้องพระสำหรับบางบ้านอาจมีเนื้อที่ไม่พอ ซึ่งการทำชั้นลอยแบบนี้ก็เป็นอีกเทคนิคที่น่าสนใจทีเดียว ส่วนการออกแบบให้ดูสวยนั้นก็ขึ้นอยู่กับไอเดียของเจ้าของบ้านและไอเดียของสถาปนิก จะทำเป็นชั้นเต็มผนังแล้วไล่ระดับของหิ้งก็ดูมีติ เพิ่มความโปร่งด้วยผนังกระจกเงาก็เป็นอีกลูกเล่นที่ทำให้มุมนี้ดูมีมิติและเพิ่มความกว้างได้ดีทีเดียว

ผนังห้องนอน
เจ้าของบ้านต้องการห้องนอนห้องที่มีความเรียบขรึม ดังนั้นการกำหนดโทนสีจึงเน้นไปที่สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก บุผนังหัวเตียงเป็นงานหนังสีน้ำตาลเข้ม เพิ่มความไม่น่าเบื่อด้วยเส้นสายลายกราฟิกง่ายๆ เจาะไฟดาวน์ไลท์วอร์มไวท์เพิ่มมิติให้ห้องนอนและละมุนสายตา

ผนังหัวเตียงเลื่อนได้
ความพิเศษของห้องนอนห้องนี้อยู่ตรง ผนังหัวเตียงนั้นสามารถเลื่อนเปิดปิดได้ หากต้องการเปิดหน้าต่างก็เพียงแค่เลื่อนก็จะเผยให้เห็นหน้าต่าง ทั้งยังเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องนอน และช่วยระบายอากาศให้ห้องนอนนั้นถ่ายเทได้สะดวกด้วย

มุมดูทีวี
บริเวณปลายเตียงออกแบบเป็นตู้บิลต์อินเต็มผนัง ด้านบนตกแต่งเป็นชั้นสำหรับวางของ ใช้ลามิเนตลายไม้ตกแต่งผนังเพื่อให้กลมกลืนกับผนังหัวเตียง เพิ่มพื้นที่เก็บของโดยออกแบบตู้ด้านล่างเป็นลิ้นชักหน้าบานสีดำด้านดูเท่มากๆ

ห้องแต่งตัว
ถัดจากเตียงก็มาถึงห้องแต่งตัว ถูกแยกโซนออกจากกัน ทำให้ห้องนอนดูเป็นสัดส่วนมากทีเดียว ออกแบบตู้บิลต์อินชิดผนังด้านหนึ่ง ทำเป็นตู้สีขาวมีทั้งบานทึบและบานกระจกสำหรับแต่งตัว แบ่งช่องและลิ้นชักตามความต้องการของเจ้าของ ถัดไปเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องนอนอีกห้อง
การตกแต่งภายในห้องนอนอีกหนึ่งห้องนั้นเน้นตู้เสื้อผ้าบิลต์อินเต็มผนัง ทำให้เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวได้เยอะ มีทั้งตู้บนและตู้ล่าง เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งนั้นออกแบบเป็นสีทูโทนระหว่างสีเทาและสีขาว โดยตู้กรุกระจกนั้นไว้สำหรับเก็บกระเป๋า สามารถใช้งานได้สะดวกมาก

ผนังหัวเตียง
ด้วยความที่มีข้อจำกัดในเรื่องของการออกแบบผนังหัวเตียง ดังนั้นสถาปนิกจึงดีไซน์ผนังให้ดูกลมกลืนแม้จะมีช่องหน้าต่างโผล่มาถึง 3 บานด้วยกัน เป็นเทคนิคที่ลดความไม่สวยงามของหน้าต่างได้อย่างแนบเนียนทีเดียว แถมยังมีการเดินเส้นด้วยสีเงินเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ทำให้ห้องนอนดูหรูหราอย่างไม่น่าเชื่อ