รอยร้าวบนผนังบ้าน แก้ได้ไม่ยากด้วยตัวเอง

1. รอยร้าวแตกลายงาบนผนังหรือเสา
รอยร้าวแตกลายงานั้นมีสาเหตุมาจากการหดตัวของปูนเมื่อสูญเสียความชื้น การฉาบที่ไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งแรงสะเทือนที่ส่งผลให้พื้นผิวแยกตัว

แต่ไม่ต้องเป็นกังวลกับรอยร้าวประเภทนี้ เพราะรอยแตกลายงานั้นไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าเป็นรอยลึกและกว้างจนสอดบัตรหรือหัวปากกาเข้าไปได้ ก็ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบจะดีกว่า

2. รอยร้าวระหว่างเสากับผนังหรือตามขอบมุม
ไม่ว่าจะเป็นรอยร้าวผนังแนวนอนหรือแนวตั้งที่ชิดขอบวงกบประตู หน้าต่าง ขอบเสา ขอบคาน และขอบเพดาน ในลักษณะผนังประกบกันไม่สนิทนั้น เกิดจากการหดตัวของปูนและชิ้นส่วนที่ประกบกัน จนเกิดรอยแตกร้าวหรือแตกกะเทาะ โดยรอยแตกร้าวประเภทนี้ก็ไม่เป็นอันตราย และเจ้าของบ้านสามารถซ่อมได้ด้วยตัวเอง

3. รอยร้าวผนังแนวดิ่งจากขอบเพดาน
หากมีรอยร้าวผนังแนวดิ่งจากขอบเพดานลงมา มีความเป็นไปได้ว่าน้ำหนักด้านบนมากเกินกว่าที่ผนังจะรับไหว จนทำให้ผนังทรุดตัวลงเฉพาะส่วนที่แบกน้ำหนัก ซึ่งเป็นอันตรายต่อผนังและโครงสร้างด้านบนที่ผนังแบกรับอยู่ เจ้าของบ้านควรย้ายของออกจากบริเวณนั้นเพื่อลดน้ำหนัก แล้วเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโดยเร็ว

4. รอยร้าวผนังแนวทแยงจากด้านมุม
รอยร้าวแนวทแยงจากมุมหรือขอบเสานั้นเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่า รากฐานส่วนนั้นกำลังทรุดตัวจนดึงผนังให้ฉีกขาดออกจากกัน ซึ่งมักจะเกิดจากการต่อเติมโครงสร้างใหม่เข้ากับโครงสร้างเดิมแล้วรากฐานทรุดตัวไม่เท่ากัน และจะยิ่งอันตรายถ้ารอยร้าวนี้เกิดขึ้นจากโครงสร้างเดิมที่ไม่ได้ต่อเติม เจ้าของบ้านต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโดยเร็วที่สุด

5. รอยร้าวบนเสาและคานบ้าน
หากเสาบ้านมีรอยแตกร้าวจนปูนกะเทาะหรือผิดรูปเหมือนถูกกดทับ หรือคานแตกร้าวแบบแอ่นกลางในลักษณะเหมือนจะหักครึ่ง นี่คือสัญญาณอันตรายที่สุดของรอยแตกร้าว และอาจอันตรายถึงขั้นโครงสร้างถล่มลงมา จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วที่สุด โดยเจ้าของบ้านควรย้ายสิ่งของให้ออกห่างในทันที