จับคู่ไฟให้ถูกห้อง...เคล็ดลับเพื่อบ้านอยู่สบายและสวยว้าว

เชื่อว่าช่วงนี้หลายๆคนน่าจะอยู่ในช่วงวางแผนสร้างบ้านใหม่ หรือมีไอเดียในการรีโนเวทบ้านหลังเดิมให้สวยขึ้นด้วยการเลือกใช้แสงไฟ เราเลยรวบรวมทิปส์ในการเลือกใช้ไฟให้เข้ากับแต่ละห้องมาฝาก เพื่อให้แต่ละห้องสามารถตอบโจทย์การใช้งาน แต่ในขณะเดียวกันสวยจนทำให้ห้องน่าอยู่และน่ามอง

เริ่มกันที่ห้องที่เป็นของทุกคนในบ้านอย่างห้องนั่งเล่นก่อน ความหลากหลายในฟังก์ชันการใช้งานทำให้ห้องนั่งเล่นเป็นเหมือนหัวใจของบ้านเพราะเป็นพื้นที่ที่ใช้พักผ่อนสบายๆ ใช้เป็นห้องเอนเตอร์เทนเมนต์ ไปจนถึงใช้เป็นห้องรับแขกด้วย เพราะฉะนั้นนอกจากเลือกไฟให้สวยแล้วยังต้องคำนึงถึงไฟที่เหมาะกับทุกกิจกรรมด้วย

นอกจากไฟที่ให้ความสว่างเป็นหลักแล้ว ควรปรับใช้งานได้หลากหลาย พร้อมมอบความสว่างที่สวยงามได้ในทุกๆ โอกาส โดยการเลือกใช้ไฟหรืออุปกรณ์ส่องสว่างที่ช่วยปรับระดับความสว่าง เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้ห้องนั่งเล่นสวยและเหมาะกับการใช้งาน

นอกจากนี้ การเลือกใช้สีของแสงนั้นจะช่วยขับบรรยากาศของห้องให้น่าอยู่ มีความรู้สึกสบายในการพักอาศัยได้ แต่ด้วยความเป็นศูนย์กลางของทุกคนในครอบครัวของห้องนั่งเล่น ทำให้เรื่องวัยของสมาชิกในบ้านเป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เพราะผู้สูงอายุมักจะชอบแสงสีขาว ขณะที่วัยรุ่นถึงวัยกลางคนนิยมแสงโทนสีเหลืองมากกว่า ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ในท้องตลอดที่โทนสีของแสงได้ทั้งแสงสีขาวและสีเหลืองในหลอดเดียวกัน ทำให้การเลือกใช้แสงไฟสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่มีหลายช่วงวัยสะดวกกว่าแต่ก่อน

ระดับความสว่างก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะถ้ากิจกรรมที่เกิดขึ้นในห้องนั่งเล่นเป็นเรื่องของการใช้สมาธิจดจ่อกับเรื่องตรงหน้า ระดับความสว่างที่ 100 เปอร์เซ็นต์จะเอื้อต่อการทำกิจกรรมมากที่สุด ส่วนระดับความสว่าง 10 เปอร์เซ็นต์ไปจนถึง 50 เปอร์เซ็นต์จะเหมาะกับการสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เสริมการพักผ่อนได้ดีกว่า

ด้วยความต้องการที่แตกต่างกันภายในห้องเดียวกัน จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่รองรับการปรับระดับความสว่างออกมาเป็นทางเลือก ทั้งสวิตช์หรี่ไฟ หรือโคมไฟ LED สำเร็จรูปที่ปรับระดับความสว่างได้อัตโนมัติด้วยสวิตช์ทั่วไป

ความว้าวของแสงไฟในห้องครัวมีความหมายคนละแบบกับของห้องนั่งเล่น เพราะไฟที่เหมาะกับห้องครัวจะเน้นให้ลุคที่ดูสะอาด มองเห็นทุกจุดชัดเจน เพราะเป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างมาก เนื่องจากกิจกรรมต่างๆ ภายในห้องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมอาหารและการใช้เครื่องครัวต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยแสงสว่างทั้งนั้น

แต่หากต้องการให้ห้องครัวดูมีสไตล์ยิ่งขึ้นก็สามารถใส่ความเก๋ได้ โดยอาจใช้ไฟสปอตไลท์มาเน้นบางมุมของห้องอย่างเช่นบริเวณโต๊ะอาหารและตามชั้นวางของหรือตู้เก็บของแบบกระจกที่เอาไว้เก็บจาน ชาม หรือแก้วสวยๆ หรืออาจนำโคมไฟแบบ LED มาเพิ่มความสว่างในจุดที่ต้องการเป็นพิเศษอย่างเช่นบริเวณอ่างล้างจานก็ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นและดูสวยขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน

ส่วนบริเวณเหนือโต๊ะกินข้าว สิ่งที่จะทำให้ว้าวที่สุดก็คือความน่ากินของอาหารบนโต๊ะ เพราะฉะนั้นไฟสปอตไลท์ที่มีความถูกต้องของสีไม่ต่ำกว่า 80 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะเพราะจะช่วยทำให้สีสันสดใสของอาหารทุกจานเด่นขึ้นและดูน่ากิน เรียกความเจริญอาหารได้ด้วยการเลือกแสงไฟ

ถึงจะมีขนาดเล็กกว่าห้องอื่น แต่การจัดแสงไฟในห้องน้ำเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด ลองนึกถึงเวลาตื่นนอนตอนเช้าในแต่ละวันแล้วส่องกระจกในห้องน้ำ หากไฟในนั้นดูหมองๆ อารมณ์ความรู้สึกของเราในการเริ่มต้นวันก็คงจะหมองตามไปด้วย

เพราะฉะนั้นเพื่อความสดใสในแต่ละวันแล้ว นอกจากไฟหลักที่ให้ห้องสว่างและดูสะอาดแล้ว อีกจุดที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษก็คือไฟบริเวณกระจกหรือไฟติดผนังข้างกระจก ซึ่งสาวๆ หลายคนใช้ทุกวันเวลาแต่งหน้าด้วย หรือหนุ่มๆ เองก็ใช้พื้นที่นี้สำหรับการโกนหนวด ซึ่งหากแสงไม่เพียงพอก็อาจทำให้มีดบาดได้ ดังนั้น แทนที่จะเพิ่มไฟเหนือกระจกซึ่งจะทำให้เงาชัดขึ้น อาจเปลี่ยนเป็นไฟบริเวณข้างกระจกแทนที่นอกจากจะดูเก๋ขึ้นแล้วยังทำให้แต่งหน้าได้ถนัดขึ้นเพราะไม่เกิดเงาสะท้อน

ความละเอียดอ่อนของการออกแบบแสงไฟในห้องนอนอยู่ตรงที่ห้องนอนมักจะเป็นห้องที่เราใช้พักผ่อนและทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย การเลือกใช้แสงไฟจึงต้องให้เหมาะกับประโยชน์การใช้งานทั้งสองแบบ การเลือกใช้ไฟเพดานในห้องนอนนั้นควรเน้นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ชวนผ่อนคลาย ให้แสงสว่างเพียงพอ ไม่ว่าเราจะใช้อ่านหนังสือ นั่งทำงาน หรือแต่งตัว พร้อมเพิ่มโคมไฟข้างหัวเตียงที่ใช้ไฟแบบ Soft tone ด้วย ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในการใช้เป็นโคมไฟอ่านหนังสือ ช่วยเรื่องความสวยงามในการตกแต่ง และช่วยให้ห้องมีบรรยากาศของการพักผ่อนยิ่งขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงเรื่องของโคมไฟหัวเตียงก็คือเรื่องหลอดไฟที่เลือกใช้ ควรให้แน่ใจว่าถ้าปิดไฟทุกดวงในห้องแล้วเหลือไว้แต่เพียงโคมไฟหัวเตียงเท่านั้น โคมไฟจะสามารถให้แสงสว่างเพียงพอที่จะทำให้การเดินจากสวิตช์ไฟไปถึงเตียงไม่มืดจนเกินไป

ที่มา : Philips Lighting Thailand