ประกันภัยบ้านคืออะไร แล้วจำเป็นต้องทำหรือไม่ ?

หลายคนอาจไม่ทันสังเกตุว่าเมื่อเรากู้ขอซื้อบ้านสิ่งหนึ่งที่ธนาคารจะยื่นข้อเสนอให้เรามาพร้อมการยื่นขอกู้สินเชื่อคือ "ประกันภัยบ้าน" แล้วประกันภัยบ้านนั้นใช้ทำอะไร ความคุ้มครองมากน้อยขนาดไหน จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องทำประกัน วันนี้บ้านบ้านจะพาเพื่อนๆ มาหาคำตอบเหล่านั้นค่ะ

โดยปกติแล้วประกันภัยบ้านจะให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ ซึ่งประกันภัยบ้านบางกรมธรรม์อาจคุ้มครองรวมถึงผู้อยู่อาศัยด้วยนะ แต่โดยหลักๆ แล้วจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับตัวอาคาร ที่อยู่อาศัย อุบัติเหตุ การจลาจล แต่ไม่รวมถึงภัยภิบัติจากธรรมชาติ

ถ้าไม่ทำประกันภัยตอนยื่นขอกู้ จะกู้ไม่ผ่านจริงหรือไม่ ?

แน่นอนว่า ไม่จริงค่ะ เพราะการซื้อประกันภัยบ้านนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของบ้าน  แต่ก็จะมีประกันประเภทหนึ่งนะคะที่กฎหมายได้บังคับไว้ให้เราต้องทำปฏิเสธไม่ได้เลย นั่นคือ "ประกันอัคคีภัย" ซึ่งประกันประเภทนี้จะคุ้มครองภัยพื้นฐาน 6 อย่าง คือ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า เหตุระเบิด ภัยจากพาหนะ ภัยจากอากาศยาน และภัยจากน้ำที่เกิดภายในอาคาร แต่จะไม่รวมภัยภิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ ส่วนประกันประเภทอื่นนั้นเพื่อนๆ กฎหมายไม่ได้มีข้อบังคับให้ทำ เพราะการซื้อประกันภัยบ้านนั้นไม่มีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อใดๆ ค่ะ

แต่เดี๋ยวก่อน! ใครหลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจได้ข้อสรุปว่า "ไม่มีความจำเป็นต้องทำประกันภัยบ้าน" แต่บ้านบ้านขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิ๊ด เพื่อประกอบการพิจารณานะคะ

ประกันภัยบ้านที่ธนาคารจะแนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ประกันภัยภิบัติ และ ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ซึ่งทั้ง 2 ประเภทจะให้ความคุ้มครองต่างกันดังนี้

ประกันภัยภิบัติ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ปกติแล้วเบี้ยประกันประเภทนี้จะไม่เกิน 0.5% ของความคุ้มครอง

ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองกรณีผู้กู้เสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือไม่สามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้ บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบชำระหนี้ในส่วนที่เหลือแทนผู้กู้ทั้งหมด โดยครอบครัวไม่จำต้องผ่อนชำระหนี้ต่อ

ค่าเบี้ยประกัน จะขึ้นอยู่กับธนาคารนั้นๆ ที่ขอกู้สินเชื่อ โดยปกติจะพิจารณาจากเพศ อายุของผู้กู้ ทุนประกันและระยะเวลาคุ้มครองหนี้สินบ้าน ซึ่งโดยเฉลี่ยเบี้ยจะอยู่ราวๆ 1,000 - 3,000 บาท ต่อทุนประกัน 1 ล้านบาท และการจ่ายเบี้ยประกันบ้านส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียวจบ แต่ในบางธนาคารอาจมีให้ผ่อนชำระค่าประกันไปพร้อมกับค่าผ่อนบ้านด้วย

TRICK! การเลือกแพคเกจประกันภัยบ้านเพิ่มความคุ้มค่า

ดูความคุ้มครองที่มีค่าชดเชยมากกว่า 70% ของตัวบ้าน

หากทำประกันไฟไหม้ ให้ดูความคุ้มครองที่ครอบคลุมบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านด้วยนะ

ดูระยะความคุ้มครองให้ดี เลือกให้เหมาะสม ระยะเวลาทั่วไปคือ 3 ปี

เบี้ยประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้านที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะ (สูงสุด 100,000 บาท) 

เมื่อเรารีไฟแนนซ์ สามารถเลือกขอเวนคืนกรมธรรม์ หรือ เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์จากธนาคารเดิมเป็นธนาคารใหม่ก็ได้ 

หากกรมธรรม์ที่ธนาคารที่เราขอสินเชื่อยังไม่น่าสนใจ สามารถทำประกันภัยบ้านภายหลังได้นะ

การซื้อประกันภัยบ้านก็เหมือนการซื้อประกันชีวิต  ประกันอุบัติเหตุ ไม่เกิดเหตุก็เหมือนจ่ายเบี้ยทิ้ง แต่เมื่อเกิดเหตุก็เหมือนมีผู้ช่วยชีวิต เพราะต้องอย่าลืมว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับบ้าน ไม่ว่าจะ น้ำท่วม ไฟไหม้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นหนักแน่นอน ค่าซ่อมแซมก็อาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินเพื่อนๆ ชะงักได้นะ หรืออาจพูดได้ว่า มีประกันไว้ก็เหมือน มีร่ม เพราะร่มจะมีค่ากับเราก็ตอนที่ฝนตกนั่นแหระค่ะ สุดท้ายนี้ไม่ว่าเพื่อนๆ จะตัดสินใจอย่างไรก็ขอให้ได้บ้านที่ถูกใจกันนะคะ

เครดิตแหล่งข้อมูล :baanbaan