5 ข้อดี-ข้อเสีย พรมปูพื้นห้อง
ข้อดีของพรมปูพื้นห้อง
1. มีความสวยงาม
ความสวยงามถือเป็นจุดเด่นหลักของพรมปูพื้นห้อง เพราะมีพรมให้เลือกมากมายหลายแบบ หลากสีสัน และสารพัดลวดลาย โดยบ้างก็เน้นความหรูหรา บ้างก็เน้นความสดใส
ตอบโจทย์ทุกความชื่นชอบของผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุม และพรมตกแต่งบ้านยังแสดงให้เห็นถึงรสนิยมที่มีระดับของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
2. ป้องกันรอยขีดข่วน
กำลังเป็นกังวลว่าพื้นอันแสนเงาวับในบ้านจะเป็นรอยอยู่ใช่หรือไม่ หมดกังวลได้เพราะพรมปูพื้นห้องสามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี และทำได้ง่าย ๆ
เพียงปูพรมแล้ววางเฟอร์นิเจอร์ที่มีขาหรือเคลื่อนที่ได้ลงไปก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หรือใช้เป็นพรมตกแต่งห้องนอนบริเวณปลายเตียง ก็จะได้ทั้งความสวยงามและกันรอยจากขาเตียงได้ในเวลาเดียวกัน
3. ดักจับฝุ่นละออง
หากเจ้าของบ้านดูแลรักษาความสะอาดพรมให้ดี พรมปูพื้นห้องก็จะช่วยลดการกระจายฝุ่นละอองได้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง เม็ดทราย หรือขนสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่หนีไปไหนไม่พ้นเมื่อมาติดอยู่กับพรม พรมปูพื้นห้องจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการใช้ตกแต่งหลังประตูทางเข้าบ้าน หรือใช้พรมปูพื้นห้องนอนเพื่อดักจับฝุ่นใต้เท้าก่อนขึ้นเตียงนอนก็ได้เช่นกัน
4. ให้ความอบอุ่น
พรมปูพื้นห้องมีประโยชน์ในการรักษาอุณหภูมิพื้นผิวในบ้านให้เหมาะสม เพราะพรมมีคุณสมบัติเป็นฉนวนและกักเก็บความร้อนได้ โดยเฉพาะกับพรมที่ผลิตมาให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับขนสัตว์ อย่างพรมอะคริลิค (Acrylic) และพรมไนลอน (Nylon) เจ้าของบ้านจะรู้สึกถึงความอุ่นสบายเท้าทันทีเมื่อเทียบกับการเดินบนพื้นเย็น ๆ ที่ไม่มีพรม
5. ช่วยลดอุบัติเหตุ
เจ้าของบ้านสามารถลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุในบ้านด้วยพรมที่มีพื้นผิวกันลื่นในตัว และยิ่งเป็นพรมที่มีขนหนานุ่มหรือพรมยางที่มีคุณสมบัติกันกระแทก ก็จะยิ่งช่วยลดแรงกระแทกเมื่อหกล้มได้ดีกว่าพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้เป็นอย่างมาก บ้านไหนที่มีเด็กหรือคนชราจึงควรมีพรมแต่งห้องเอาไว้ช่วยลดการลื่นล้ม โดยเฉพาะหน้าห้องน้ำและบันได
1. มีความสวยงาม
ความสวยงามถือเป็นจุดเด่นหลักของพรมปูพื้นห้อง เพราะมีพรมให้เลือกมากมายหลายแบบ หลากสีสัน และสารพัดลวดลาย โดยบ้างก็เน้นความหรูหรา บ้างก็เน้นความสดใส
ตอบโจทย์ทุกความชื่นชอบของผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุม และพรมตกแต่งบ้านยังแสดงให้เห็นถึงรสนิยมที่มีระดับของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
2. ป้องกันรอยขีดข่วน
กำลังเป็นกังวลว่าพื้นอันแสนเงาวับในบ้านจะเป็นรอยอยู่ใช่หรือไม่ หมดกังวลได้เพราะพรมปูพื้นห้องสามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี และทำได้ง่าย ๆ
เพียงปูพรมแล้ววางเฟอร์นิเจอร์ที่มีขาหรือเคลื่อนที่ได้ลงไปก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หรือใช้เป็นพรมตกแต่งห้องนอนบริเวณปลายเตียง ก็จะได้ทั้งความสวยงามและกันรอยจากขาเตียงได้ในเวลาเดียวกัน
3. ดักจับฝุ่นละออง
หากเจ้าของบ้านดูแลรักษาความสะอาดพรมให้ดี พรมปูพื้นห้องก็จะช่วยลดการกระจายฝุ่นละอองได้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง เม็ดทราย หรือขนสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่หนีไปไหนไม่พ้นเมื่อมาติดอยู่กับพรม พรมปูพื้นห้องจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการใช้ตกแต่งหลังประตูทางเข้าบ้าน หรือใช้พรมปูพื้นห้องนอนเพื่อดักจับฝุ่นใต้เท้าก่อนขึ้นเตียงนอนก็ได้เช่นกัน
4. ให้ความอบอุ่น
พรมปูพื้นห้องมีประโยชน์ในการรักษาอุณหภูมิพื้นผิวในบ้านให้เหมาะสม เพราะพรมมีคุณสมบัติเป็นฉนวนและกักเก็บความร้อนได้ โดยเฉพาะกับพรมที่ผลิตมาให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับขนสัตว์ อย่างพรมอะคริลิค (Acrylic) และพรมไนลอน (Nylon) เจ้าของบ้านจะรู้สึกถึงความอุ่นสบายเท้าทันทีเมื่อเทียบกับการเดินบนพื้นเย็น ๆ ที่ไม่มีพรม
5. ช่วยลดอุบัติเหตุ
เจ้าของบ้านสามารถลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุในบ้านด้วยพรมที่มีพื้นผิวกันลื่นในตัว และยิ่งเป็นพรมที่มีขนหนานุ่มหรือพรมยางที่มีคุณสมบัติกันกระแทก ก็จะยิ่งช่วยลดแรงกระแทกเมื่อหกล้มได้ดีกว่าพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้เป็นอย่างมาก บ้านไหนที่มีเด็กหรือคนชราจึงควรมีพรมแต่งห้องเอาไว้ช่วยลดการลื่นล้ม โดยเฉพาะหน้าห้องน้ำและบันได
ข้อเสียของพรมปูพื้นห้อง
1. เสียหายง่าย ไม่ทนทาน
ความไม่คงทนถือเป็นข้อเสียหลักของพรมปูพื้นห้องเลยก็ว่าได้ เพราะกลายเป็นว่าทุกคนในบ้านต้องเดินย่ำพรมบ่อย ๆ แทนพื้น และยิ่งมีเฟอร์นิเจอร์ลากไปลากมาหรือกดทับบนพรมด้วยแล้ว
จะพรมแพงแค่ไหนก็ยากที่จะอยู่ได้นาน เว้นแต่จะใช้พรมทอเครื่องผืนใหญ่ที่ใช้กับห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม แต่นั่นก็จะเปลี่ยนอารมณ์การตกแต่งในบ้านไปมากพอสมควร
2. ทำความสะอาดยาก
ไม่ว่าจะเป็นพรมขนาดเล็กหรือใหญ่ก็เตรียมกุมขมับกันได้เลยหากทำน้ำหวานหรืออาหารหกใส่ เพราะพรมที่เน้นความสวยงามก็มักจะทำความสะอาดยากมาก หรือต่อให้ทำความสะอาดไปแล้วแต่ก็ยังอาจมีรอยเปื้อนและกลิ่นติดอยู่ได้ ยิ่งเป็นพรมที่มีขนฟูฟ่องละมุนเท้าด้วยแล้ว หากมีอะไรหกใส่เลอะเทอะ ก็อาจจะต้องโยนทิ้งถังขยะไปได้เลย
3. เป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อรา
หากเจ้าของบ้านไม่หมั่นดูดฝุ่นบนพรมในบ้าน จากพรมที่เคยเป็นที่ดักจับฝุ่นละอองก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและแพร่กระจายเชื้อโรคเสียเอง โดยเฉพาะเชื้อราและไรฝุ่นที่ดูจะชื่นชอบพรมปูพื้นเป็นพิเศษ พรมปูพื้นจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากคนในบ้านเป็นโรคภูมิแพ้
4. พรมดีมักมีราคาแพง
เป็นความจริงที่ว่าถ้าซื้อพรมปูพื้นห้องราคาถูกมาใช้ ไม่นานเส้นใยก็จะหลุดรุ่ยและเสื่อมสภาพ หรือไม่ก็ผิดรูปผิดทรงจากที่เคยซื้อมาใหม่ ๆ ซึ่งนั่นเป็นเพราะวัสดุที่ใช้ไม่ได้คุณภาพ
ดังนั้นหากต้องการความทนทาน ก็ต้องซื้อพรมที่ใช้วัสดุสังเคราะห์คุณภาพดี เช่น พรมไนลอน (Nylon) และพรมโพลีโปรไพลีน (Polypropylene) แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่แพงกว่าเช่นกัน
5. ไม่เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงสัตว์
ในสายตาของสัตว์เลี้ยง พรมปูพื้นห้องนั้นเปรียบเสมือนทุ่งปลดทุกข์สำหรับพวกมันเลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะนำพรมไปซักได้ แต่กลิ่นก็จะยังติดพรมผืนนั้นอยู่ และสัตว์เลี้ยงก็จะขับถ่ายที่เดิมซ้ำ ๆ ต่อไป และยิ่งถ้าสัตว์เลี้ยงในบ้านชอบกัดแทะด้วยแล้ว รับรองเลยว่าต่อให้พรมทนทานแค่ไหน ก็ไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีข้อเสียที่เจ้าของบ้านต้องชั่งน้ำหนักศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อพรมปูพื้นห้อง
เครดิตแหล่งข้อมูล :ddproperty
1. เสียหายง่าย ไม่ทนทาน
ความไม่คงทนถือเป็นข้อเสียหลักของพรมปูพื้นห้องเลยก็ว่าได้ เพราะกลายเป็นว่าทุกคนในบ้านต้องเดินย่ำพรมบ่อย ๆ แทนพื้น และยิ่งมีเฟอร์นิเจอร์ลากไปลากมาหรือกดทับบนพรมด้วยแล้ว
จะพรมแพงแค่ไหนก็ยากที่จะอยู่ได้นาน เว้นแต่จะใช้พรมทอเครื่องผืนใหญ่ที่ใช้กับห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม แต่นั่นก็จะเปลี่ยนอารมณ์การตกแต่งในบ้านไปมากพอสมควร
2. ทำความสะอาดยาก
ไม่ว่าจะเป็นพรมขนาดเล็กหรือใหญ่ก็เตรียมกุมขมับกันได้เลยหากทำน้ำหวานหรืออาหารหกใส่ เพราะพรมที่เน้นความสวยงามก็มักจะทำความสะอาดยากมาก หรือต่อให้ทำความสะอาดไปแล้วแต่ก็ยังอาจมีรอยเปื้อนและกลิ่นติดอยู่ได้ ยิ่งเป็นพรมที่มีขนฟูฟ่องละมุนเท้าด้วยแล้ว หากมีอะไรหกใส่เลอะเทอะ ก็อาจจะต้องโยนทิ้งถังขยะไปได้เลย
3. เป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อรา
หากเจ้าของบ้านไม่หมั่นดูดฝุ่นบนพรมในบ้าน จากพรมที่เคยเป็นที่ดักจับฝุ่นละอองก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและแพร่กระจายเชื้อโรคเสียเอง โดยเฉพาะเชื้อราและไรฝุ่นที่ดูจะชื่นชอบพรมปูพื้นเป็นพิเศษ พรมปูพื้นจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากคนในบ้านเป็นโรคภูมิแพ้
4. พรมดีมักมีราคาแพง
เป็นความจริงที่ว่าถ้าซื้อพรมปูพื้นห้องราคาถูกมาใช้ ไม่นานเส้นใยก็จะหลุดรุ่ยและเสื่อมสภาพ หรือไม่ก็ผิดรูปผิดทรงจากที่เคยซื้อมาใหม่ ๆ ซึ่งนั่นเป็นเพราะวัสดุที่ใช้ไม่ได้คุณภาพ
ดังนั้นหากต้องการความทนทาน ก็ต้องซื้อพรมที่ใช้วัสดุสังเคราะห์คุณภาพดี เช่น พรมไนลอน (Nylon) และพรมโพลีโปรไพลีน (Polypropylene) แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่แพงกว่าเช่นกัน
5. ไม่เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงสัตว์
ในสายตาของสัตว์เลี้ยง พรมปูพื้นห้องนั้นเปรียบเสมือนทุ่งปลดทุกข์สำหรับพวกมันเลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะนำพรมไปซักได้ แต่กลิ่นก็จะยังติดพรมผืนนั้นอยู่ และสัตว์เลี้ยงก็จะขับถ่ายที่เดิมซ้ำ ๆ ต่อไป และยิ่งถ้าสัตว์เลี้ยงในบ้านชอบกัดแทะด้วยแล้ว รับรองเลยว่าต่อให้พรมทนทานแค่ไหน ก็ไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีข้อเสียที่เจ้าของบ้านต้องชั่งน้ำหนักศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อพรมปูพื้นห้อง
เครดิตแหล่งข้อมูล :ddproperty
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!