5 เทคนิคง่ายๆ ช่วย “คุมโทน” สีห้องและของใช้ในบ้าน
หน้าแรกTeeNee รีวิวบ้าน สวน บิลท์อิน ตกแต่ง ไอเดียและดีไซน์บ้านแบบต่าง ๆ 5 เทคนิคง่ายๆ ช่วย “คุมโทน” สีห้องและของใช้ในบ้าน
1. เลือกโทนสีที่ชอบ
อันดับแรกเราต้องเลือกโทนสีที่ชอบก่อนครับ นั่นเพราะโทนสีของบ้านจะบ่งบอกความเป็นตัวตน เอกลักษณ์ของเจ้าของบ้าน การเลือกใช้โทนสีที่ชอบจะทำให้เรารู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านน่าอยู่มากขึ้น โทนสีมีหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น
โทนสีพาสเทล - สำหรับสายหวาน ให้บรรยากาศอบอุ่น อ่อนโยน และสบายตา
โทนสีขาวเทาหรือเทาดำ - สำหรับสายมินิมอล ให้ลุคเท่ เนี๊ยบๆ มองได้ไม่มีเบื่อ
โทนสีกรม เหลือง ทอง - สำหรับคนที่ชอบความหรูหรา สไตล์ Modern Luxury
โทนสีน้ำตาลไม้ - สำหรับสายธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ในสไตล์ Cozy
2. คุมโทนห้องด้วยทฤษฎีสี 60-30-10
เทคนิคทำให้ห้องสวยง่ายๆ คุมโทน ไม่ลายตาด้วยทฤษฎีสี 60-30-10 เป็นการแบ่งสีออกเป็นอัตราส่วน โดยจะแบ่งช่วงสีออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ สีหลัก 60%, สีรอง 30%, และสีไฮไลท์ 10%
สีรอง 30% : เป็นตัวช่วยส่งเสริมให้ห้องน่าสนใจมากขึ้น เช่น สีผ้าม่าน พรม โซฟาและเฟอร์นิเจอร์ขนาดกลาง
สีไฮไลท์ 10% : สีไฮไลท์จะช่วยเพิ่มความโดดเด่น และช่วยให้ห้องมีเสน่ห์ บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดึงดูดสายตา ให้เลือกใช้กับ โคมไฟ แจกัน ของตกแต่งชิ้นเล็กๆ อย่างหมอนอิงโซฟา เป็นต้น
3. เลือกใช้ผ้าม่านและผ้าปูที่นอนเป็นสีพื้น
การเลือกสีผ้าม่านและผ้าปูที่นอน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการคุมโทนสีภายในบ้านให้เป็น Theme เดียวกัน เนื่องจากผ้าม่านเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านที่มีมากและเห็นได้ชัดในระดับสายตาของผู้อยู่อาศัย สีของผ้าม่านมีผลต่อบรรยากาศโดยรวมของบ้านอย่างมากครับ ส่วนผ้าปูที่นอนก็เป็นจุดสำคัญในห้องนอนที่จะช่วยทำให้บรรยากาศภายในห้องน่าอยู่ น่านอนมากขึ้นนั่นเอง คำแนะนำของการเลือกสีของม่านและผ้าปูที่นอนคือ ให้เลือกสีผ้าที่เป็นสีพื้น แบบไม่มีลวดลาย จะไม่ทำให้ลายตา และไม่ทำให้บ้านหรือห้องดูรก ช่วยคุมโทนสีได้ดีครับ
4. เลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้เป็นแบบเซ็ตเดียวกัน
อีกเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยคุมโทนสีบ้านคือ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ เพราะเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ถ้ามีการซื้อหรือเปลี่ยนใหม่ให้เลือกที่เป็นเซ็ตเดียวกันหรือแบรนด์เดียวกัน เพราะจะช่วยในการคุมทั้งโทนสีและรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยอาจจะเริ่มจากชิ้นเล็กๆ ก่อน เช่น ซื้อเซ็ตโต๊ะทานอาหารใหม่ เราก็เลือกโต๊ะ เก้าอี้ที่เป็นแบรนด์เดียวกัน โทนสีพื้น สีเดียวกันและเลือกชุดจาน ชาม ช้อน-ส้อม ที่เป็นแบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน ที่เค้าจัดมาเป็นเซ็ตสีพื้น และไม่ลืมเลือกผ้าปูรองจานที่เป็นโทนสีตามที่เลือกไว้ในข้อ 1 ด้วยครับ
การเลือกสีผ้าม่านและผ้าปูที่นอน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการคุมโทนสีภายในบ้านให้เป็น Theme เดียวกัน เนื่องจากผ้าม่านเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านที่มีมากและเห็นได้ชัดในระดับสายตาของผู้อยู่อาศัย สีของผ้าม่านมีผลต่อบรรยากาศโดยรวมของบ้านอย่างมากครับ ส่วนผ้าปูที่นอนก็เป็นจุดสำคัญในห้องนอนที่จะช่วยทำให้บรรยากาศภายในห้องน่าอยู่ น่านอนมากขึ้นนั่นเอง คำแนะนำของการเลือกสีของม่านและผ้าปูที่นอนคือ ให้เลือกสีผ้าที่เป็นสีพื้น แบบไม่มีลวดลาย จะไม่ทำให้ลายตา และไม่ทำให้บ้านหรือห้องดูรก ช่วยคุมโทนสีได้ดีครับ
4. เลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้เป็นแบบเซ็ตเดียวกัน
อีกเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยคุมโทนสีบ้านคือ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ เพราะเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ถ้ามีการซื้อหรือเปลี่ยนใหม่ให้เลือกที่เป็นเซ็ตเดียวกันหรือแบรนด์เดียวกัน เพราะจะช่วยในการคุมทั้งโทนสีและรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยอาจจะเริ่มจากชิ้นเล็กๆ ก่อน เช่น ซื้อเซ็ตโต๊ะทานอาหารใหม่ เราก็เลือกโต๊ะ เก้าอี้ที่เป็นแบรนด์เดียวกัน โทนสีพื้น สีเดียวกันและเลือกชุดจาน ชาม ช้อน-ส้อม ที่เป็นแบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน ที่เค้าจัดมาเป็นเซ็ตสีพื้น และไม่ลืมเลือกผ้าปูรองจานที่เป็นโทนสีตามที่เลือกไว้ในข้อ 1 ด้วยครับ
5. จัดเก็บของส่วนที่ไม่เข้า Theme สีให้พ้นสายตา
ไม่ว่าจะบ้านเก่า บ้านใหม่ ทุกที่ที่ขึ้นชื่อว่าที่อยู่อาศัย มักจะมีของใช้กระจุกกระจิกมากมาย ซึ่งถ้าจะให้คุมโทนเราก็ต้องเลือกสีของใช้นั้นๆ ให้เข้ากับสีห้องตั้งแต่แรกที่ซื้อ ส่วนของที่มีอยู่แล้วและเราก็ยังไม่ได้มีแพลนจะซื้อใหม่เพื่อให้เข้าธีมห้อง ก็ควรจัดระเบียบสิ่งเหล่านี้ให้หลบพ้นสายตา เช่น เราอาจจะแบ่งโซนเก็บของในบ้าน หาลิ้นชักหรือหากล่องเก็บของที่มีสีที่เข้ากับธีมห้องมาจัดเก็บของใช้ต่างๆ เพื่อให้ภาพรวมของห้องเป็นไปในทางเดียวกัน สีไม่โดดและลายตาการจัดเก็บของอย่างเป็นระเบียบนอกจะช่วยคุมโทนห้องแล้วยังทำให้เราหาของได้ง่ายขึ้นอีกด้วยนี่เป็น
5 เทคนิคง่ายๆ สำหรับใครที่อยากจะลอง "คุมโทน" สีบ้านหรือห้องของตัวเองดูบ้าง เอาจริงนอกจากการเลือกสีให้เข้ากันทั้งห้องแล้ว ที่สำคัญที่สุดเลยผมว่าการเก็บของนี่แหละ ที่ช่วยให้สีแปลกปลอมหรือไม่เข้า Theme มันพ้นสายตาของเราได้ สมมติว่าเรามีตู้เก็บของที่เข้า Theme กับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ เราแค่หาที่ใส่ของอย่างกล่อง หรืออะไรก็ตามแต่มาใส่ของเหล่านั้น แค่นี้เราก็คุมโทนห้องได้แล้วครับ ดังนั้นพื้นที่จัดเก็บของถือเป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการคุมโทนสีของห้อง เพื่อนๆ ลองนำเทคนิคไปใช้กันดูได้นะ^^
ไม่ว่าจะบ้านเก่า บ้านใหม่ ทุกที่ที่ขึ้นชื่อว่าที่อยู่อาศัย มักจะมีของใช้กระจุกกระจิกมากมาย ซึ่งถ้าจะให้คุมโทนเราก็ต้องเลือกสีของใช้นั้นๆ ให้เข้ากับสีห้องตั้งแต่แรกที่ซื้อ ส่วนของที่มีอยู่แล้วและเราก็ยังไม่ได้มีแพลนจะซื้อใหม่เพื่อให้เข้าธีมห้อง ก็ควรจัดระเบียบสิ่งเหล่านี้ให้หลบพ้นสายตา เช่น เราอาจจะแบ่งโซนเก็บของในบ้าน หาลิ้นชักหรือหากล่องเก็บของที่มีสีที่เข้ากับธีมห้องมาจัดเก็บของใช้ต่างๆ เพื่อให้ภาพรวมของห้องเป็นไปในทางเดียวกัน สีไม่โดดและลายตาการจัดเก็บของอย่างเป็นระเบียบนอกจะช่วยคุมโทนห้องแล้วยังทำให้เราหาของได้ง่ายขึ้นอีกด้วยนี่เป็น
5 เทคนิคง่ายๆ สำหรับใครที่อยากจะลอง "คุมโทน" สีบ้านหรือห้องของตัวเองดูบ้าง เอาจริงนอกจากการเลือกสีให้เข้ากันทั้งห้องแล้ว ที่สำคัญที่สุดเลยผมว่าการเก็บของนี่แหละ ที่ช่วยให้สีแปลกปลอมหรือไม่เข้า Theme มันพ้นสายตาของเราได้ สมมติว่าเรามีตู้เก็บของที่เข้า Theme กับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ เราแค่หาที่ใส่ของอย่างกล่อง หรืออะไรก็ตามแต่มาใส่ของเหล่านั้น แค่นี้เราก็คุมโทนห้องได้แล้วครับ ดังนั้นพื้นที่จัดเก็บของถือเป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการคุมโทนสีของห้อง เพื่อนๆ ลองนำเทคนิคไปใช้กันดูได้นะ^^
เครดิตแหล่งข้อมูล : livingpop
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น