ทริคง่ายๆ เคล็ดลับการเลือกซื้อชุดเครื่องนอน
หน้าแรกTeeNee รีวิวบ้าน สวน บิลท์อิน ตกแต่ง ไอเดียและดีไซน์บ้านแบบต่าง ๆ ทริคง่ายๆ เคล็ดลับการเลือกซื้อชุดเครื่องนอน
ปัญหาเรื่องการหลับนอนจะหมดไป เมื่อย ปวดหลัง ปวดคอ ไม่สบายตัว ก่อนซื้อชุดเครื่องนอนครั้งต่อไป มาดูทริคง่ายๆที่เรานำมาฝากกันก่อนค่ะ
ถ้าให้นึกถึงช่วงเวลาของการพักผ่อนในแต่ละคน เชื่อว่าอันดับแรกๆส่วนใหญ่ต้องนึกถึงบรรยากาศของห้องนอนแน่ๆ นอกจากวิธีตกแต่งภายในห้องนอนที่เราเคยหยิบมาฝาก วันนี้มีอีกเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อชุดเครื่องนอนมาฝากเช่นกัน หลักๆก็คือที่นอนและหมอน ซึ่งเป็นส่วนที่รองรับสรีระของเรา จึงต้องใส่ใจเพราะส่งผลสำคัญถึงสุขภาพด้วย เ มีแบบไหนบ้าง และชนิดไหนที่เหมาะกับเรา ตามมาชมเคล็ดลับการเลือกเลยดีกว่า
ลำดับแรกต้องดูความต้องการของคุณก่อนค่ะ ว่าต้องการที่นอนสำหรับนอนกี่คน ถ้านอนคนเดียว ก็อาจเลือกที่นอนได้ตั้งแต่ 3.5, 5 และ 6 ฟุต ตามความชอบใจ และขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้องนอนและการตกแต่งภายใน แต่ถ้านอน 2 คน แนะนำว่าที่นอน 6 ฟุตน่าจะเหมาะสมที่สุดนะคะ เพราะเวลานอนคุณต้องเผื่อที่สำหรับยืดตัวหรือพลิกตัว อีกทั้งที่นอน 5 ฟุตยังหาชุดผ้าปูที่นอนได้ไม่หลากหลายเท่าแบบ 6 ฟุต แถมราคายังต่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น ดูภาพเพิ่มเติม เอสบี ราชพฤกษ์
หลังจากได้ขนาดเป็นที่พอใจแล้ว ก็ถึงเวลาไปเดินดูที่นอนซึ่งการเลือกยี่ห้อควรเลือกบริษัทผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ เพราะที่นอนหลังดีๆอันหนึ่ง คุณสามารถใช้ได้หลายปี ตรวจดูให้แน่ใจว่าที่นอนมีประกันอย่างน้อย 5-15 ปี เมื่อเลือกแบบได้แล้ว คุณและคนที่จะนอนด้วย ควรทดลองนอนดูค่ะ ลองนอนกลิ้งสบายๆซัก 10-15 นาที เพื่อให้รู้สึกจริงๆว่าที่นอนนี้เหมาะกับคุณ หรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนภายหลังนะคะ ดูภาพเพิ่มเติม เอสบี ราชพฤกษ์
ที่นอนมีหลายประเภท แบ่งตามวัสดุที่ใช้ทำซึ่งแบ่งได้ดังนี้
- ที่นอนฟองน้ำ/ใยมะพร้าว ข้อดีคือราคาไม่แพงมาก วัสดุภายในเกิดจากฟองน้ำและใยมะพร้าว ซึ่งถ้าใช้ใยมะพร้าวเยอะ ที่นอนจะค่อนข้างแข็ง ยุบยาก แต่ถ้าใช้ฟองน้ำเยอะ ก็จะยุบง่ายกว่า ทำให้มีราคาถูกที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกแข็งกระด้าง เวลานอน
- ที่นอนนุ่น ควรเลือกซื้อกับผู้ผลิตที่ใช้แต่นุ่นใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่นอนนุ่นแท้เมื่อตบดูจะแน่นมากแต่เวลายกดูจะเบา คุณสามารถยกที่นอนมาผึ่งแดดได้เพราะที่นอนแบ่งเป็นสามท่อนต่อกัน ดังนั้นการใช้ที่นอนประเภทนี้ คุณควรจะมีเตียง เพื่อให้ขอบเตียงบังคับไม่ให้ที่นอนทั้ง 3 ท่อนเลื่อนออกจากกัน
- ที่นอนสปริง เป็นประเภทที่นิยมที่สุดสำหรับห้องนอน ซึ่งถ้าเป็นสปริงคุณภาพดีของเมืองนอก ราคาก็จะสูงมากตามไปด้วย ตามโรงแรมชั้นนำมักเลือกใช้ที่นอนประเภทนี้ เพราะความแข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 ปี ความหนาของที่นอนสปริงเริ่มต้นที่ 8 นิ้วขึ้นไป เพราะถูกบังคับด้วยตัวลูกสปริงที่สูงประมาณ 5 ถึง 6 นิ้ว ระบบสปริงในที่นอนแบ่งเป็นย่อยๆอยู่ 3 ประเภท
1. Pocket Spring เป็นระบบสปริงที่ดีทีสุดเนื่องจากสปริงทุกๆ ลูกจะถูกบรรจุอยู่ในถุงผ้าแยกกันลูกต่อลูก ซึ่งจะทำให้แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ระหว่างการนอนพลิกตัวไม่ถูกส่งไปรบกวนยังบริเวณข้างๆ อีกทั้งการยุบตัวของที่นอนจึงถูกจำกัดอยู่ในบริเวณที่รองรับน้ำหนักของผู้นอนเท่านั้น
2. Offset Spring เป็นระบบสปริงที่ลูกสปริงถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มพื้นที่ใน การยึดติดกันทำให้ที่นอนนั้นแน่นขึ้น และลดปัญหาเสียงรบกวนอันเกิดจากลูกสปริง ที่นอนสปริงประเภทนี้เป็นที่นิยมทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เนื่องจากมีความแข็งแรงและทรงตัวอยู่ได้นานกว่าสปริงแบบอื่น
3. Bonnell Spring เป็นระบบสปริงดั้งเดิม ถือกำเนิดมาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ในปัจจุบันเป็นลักษณะสปริงที่เป็นที่นิยมเพราะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำและมีคุณภาพพอใช้ได้ แต่มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้น
- ที่นอนยางพารา เป็นที่นอนที่ราคาแพงที่สุด อายุการใช้งานนานที่สุด คือประมาณ 10-15 ปี ให้ความรู้สึกนุ่มและแน่น ซึ่งที่นอนยางพารานั้นมีทั้งแบบที่เป็นยางพาราล้วนๆ ยางพาราผสมกับระบบสปริงหรือฟองน้ำ และที่นอนยางพาราสังเคราะห์ แต่ปัญหาของที่นอนประเภทนี้คือจะมีกลิ่นที่เป็นธรรมชาติของยาง น้ำหนักมาก และห้ามตากแดดเด็ดขาด เพราะยางจะเสีย ดูภาพเพิ่มเติมNoble Gable Watcharapol
ห้องนอนแบบห้องนอนแต่งห้องนอนตกแต่งห้องนอน ทริคง่ายๆ เคล็ดลับการเลือกซื้อชุดเครื่องนอน
การเลือกซื้อหมอน
ชนิดของหมอนจะใกล้เคียงกับที่นอน เพียงแต่ไม่มีแบบสปริง วิธีการเลือกหมอนไม่ว่าจะเป็นหมอนหนุนหรือหมอนข้าง มีหลักสำคัญในการเลือกซื้อ ก็คือการเลือกวัสดุที่ใช้นั่นเองค่ะ ซึ่งหมอนจะแบ่งตามประเภทของวัสดุได้ดังนี้ ดูภาพเพิ่มเติมNoble Gable Watcharapol
- หมอนใยสังเคราะห์ ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากดูแลรักษาง่าย และราคาไม่แพง มีความนุ่มหลายระดับให้เลือก คืนตัวได้เหมือนเดิม และสามารถรองรับคอและศีรษะได้ดี บางรุ่นพัฒนาให้ปราศจากไรฝุ่น ทำให้เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้ แต่ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น คือ ประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี
- หมอนนุ่น เป็นวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถระบายอากาศได้ดี สามารถซักทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ แต่หมอนประเภทนี้จะ ไม่สามารถคืนตัวได้ และจะนุ่มลงเรื่อยๆตามการใช้งาน
- หมอนใยไหม มีน้ำหนักเบา เป็นฉนวนไฟฟ้า หมอนจะมีความนุ่มปานกลาง หรือค่อนข้างแข็ง และไม่สามารถซักได้
ต้องใช้วิธีการตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อ
- หมอนขนสัตว์ มีทั้งขนนก ขนเป็ด และขนห่าน ซึ่งอย่างหลังจะมีราคาสูงที่สุด มีข้อดีคือทนทาน ให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม ฟู และ แน่น สามารถใส่ไส้เพิ่มได้เมื่อรู้สึกว่านิ่มเกินไป แต่มีข้อเสียคือไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นภูมิแพ้ และหมอนขนสัตว์มักไม่คืนตัว ก่อนล้มตัวลงนอนจึงควรจัดให้ได้รูปเสียก่อน สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้
- หมอนลาเท็กซ์หรือยางธรรมชาติ เป็นหมอนที่มีส่วนโค้งรองรับกระดูกต้นคอ ศีรษะ และหัวไหล่ ทำมาจากยางธรรมชาติจึงเหนียว และมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปลี่ยนรูปร่างเมื่อใช้งาน ควรเลือกประเภทที่มีรูพรุน เพื่อการระบายความร้อน เนื่องจากหากมีความร้อนมากน้ำยางอาจซึมออกมาเกิดเชื้อราได้ และควรหุ้มด้วยผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี
- หมอนธัญพืช เป็นวัสดุแนวใหม่ที่เริ่มมาแรง วัสดุที่ใช้มีทั้งเปลือกโซบะในญี่ปุ่น หรือบ้านเรามีหมอนชาเขียว เป็นหมอนที่สามารถถ่ายเทอากาศ และระบายความชื้นได้ดี แต่ต้องระวังแมลงและมีเสียงดังรบกวนบ้างเมื่อขยับตัว
ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน
การเลือกผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนให้กับเตียงและห้องนอนนั้น ขึ้นอยู่กับความละเอียดของผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน รวมถึงประเภทของผ้าถ้าคุณปูที่นอนเก่งอาจเลือกผ้าปูที่นอนแบบธรรมดา แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวก ก็สามารถเลือกแบบผ้าแบบรัดมุม ส่วนปลอกหมอนนั้น หลายคนมักเลือกให้เข้ากับผ้าปูที่นอน แต่สีและลายอาจจะไม่จำเป็นต้องเหมือนกันซะทีเดียว เพื่อความน่าสนใจ ผ้าที่ใช้ในการทำผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน มีดังนี้ค่ะ
- ผ้าฝ้าย เป็นผ้ายอดนิยมของคนส่วนใหญ่ เพราะระบายอากาศร้อนได้ดี ผ้าเนื้อนุ่มสบาย ถ้าเส้นใยทอแน่นมากๆ ผ้าจะเนื้อหนา
- ผ้าไหม หรูหรา เนียนนุ่ม ยิ่งใครชอบความลื่นพลิ้ว เป็นต้องถูกใจ แต่ดูแลรักษายาก ราคาค่อนข้างสูง
- ผ้าลินิน สวยงาม บางเบา แต่ยับง่าย ดูแลรักษายาก ราคาค่อนข้างสูง
- ผ้าใยสังเคราะห์ เดี๋ยวนี้มีแบบที่คุณสมบัติเหมือนผ้าฝ้ายทุกประการ แต่ไม่เป็นที่สะสมของไรฝุ่น และป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ ทั้งยังมีแบบที่มีคุณสมบัติเหมือนผ้าไหมด้วย แต่ดูแลรักษาง่ายกว่า และซักด้วยเครื่องซักผ้าได้
ถ้าให้นึกถึงช่วงเวลาของการพักผ่อนในแต่ละคน เชื่อว่าอันดับแรกๆส่วนใหญ่ต้องนึกถึงบรรยากาศของห้องนอนแน่ๆ นอกจากวิธีตกแต่งภายในห้องนอนที่เราเคยหยิบมาฝาก วันนี้มีอีกเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อชุดเครื่องนอนมาฝากเช่นกัน หลักๆก็คือที่นอนและหมอน ซึ่งเป็นส่วนที่รองรับสรีระของเรา จึงต้องใส่ใจเพราะส่งผลสำคัญถึงสุขภาพด้วย เ มีแบบไหนบ้าง และชนิดไหนที่เหมาะกับเรา ตามมาชมเคล็ดลับการเลือกเลยดีกว่า
ลำดับแรกต้องดูความต้องการของคุณก่อนค่ะ ว่าต้องการที่นอนสำหรับนอนกี่คน ถ้านอนคนเดียว ก็อาจเลือกที่นอนได้ตั้งแต่ 3.5, 5 และ 6 ฟุต ตามความชอบใจ และขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้องนอนและการตกแต่งภายใน แต่ถ้านอน 2 คน แนะนำว่าที่นอน 6 ฟุตน่าจะเหมาะสมที่สุดนะคะ เพราะเวลานอนคุณต้องเผื่อที่สำหรับยืดตัวหรือพลิกตัว อีกทั้งที่นอน 5 ฟุตยังหาชุดผ้าปูที่นอนได้ไม่หลากหลายเท่าแบบ 6 ฟุต แถมราคายังต่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น ดูภาพเพิ่มเติม เอสบี ราชพฤกษ์
หลังจากได้ขนาดเป็นที่พอใจแล้ว ก็ถึงเวลาไปเดินดูที่นอนซึ่งการเลือกยี่ห้อควรเลือกบริษัทผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ เพราะที่นอนหลังดีๆอันหนึ่ง คุณสามารถใช้ได้หลายปี ตรวจดูให้แน่ใจว่าที่นอนมีประกันอย่างน้อย 5-15 ปี เมื่อเลือกแบบได้แล้ว คุณและคนที่จะนอนด้วย ควรทดลองนอนดูค่ะ ลองนอนกลิ้งสบายๆซัก 10-15 นาที เพื่อให้รู้สึกจริงๆว่าที่นอนนี้เหมาะกับคุณ หรือไม่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนภายหลังนะคะ ดูภาพเพิ่มเติม เอสบี ราชพฤกษ์
ที่นอนมีหลายประเภท แบ่งตามวัสดุที่ใช้ทำซึ่งแบ่งได้ดังนี้
- ที่นอนฟองน้ำ/ใยมะพร้าว ข้อดีคือราคาไม่แพงมาก วัสดุภายในเกิดจากฟองน้ำและใยมะพร้าว ซึ่งถ้าใช้ใยมะพร้าวเยอะ ที่นอนจะค่อนข้างแข็ง ยุบยาก แต่ถ้าใช้ฟองน้ำเยอะ ก็จะยุบง่ายกว่า ทำให้มีราคาถูกที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกแข็งกระด้าง เวลานอน
- ที่นอนนุ่น ควรเลือกซื้อกับผู้ผลิตที่ใช้แต่นุ่นใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่นอนนุ่นแท้เมื่อตบดูจะแน่นมากแต่เวลายกดูจะเบา คุณสามารถยกที่นอนมาผึ่งแดดได้เพราะที่นอนแบ่งเป็นสามท่อนต่อกัน ดังนั้นการใช้ที่นอนประเภทนี้ คุณควรจะมีเตียง เพื่อให้ขอบเตียงบังคับไม่ให้ที่นอนทั้ง 3 ท่อนเลื่อนออกจากกัน
- ที่นอนสปริง เป็นประเภทที่นิยมที่สุดสำหรับห้องนอน ซึ่งถ้าเป็นสปริงคุณภาพดีของเมืองนอก ราคาก็จะสูงมากตามไปด้วย ตามโรงแรมชั้นนำมักเลือกใช้ที่นอนประเภทนี้ เพราะความแข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 ปี ความหนาของที่นอนสปริงเริ่มต้นที่ 8 นิ้วขึ้นไป เพราะถูกบังคับด้วยตัวลูกสปริงที่สูงประมาณ 5 ถึง 6 นิ้ว ระบบสปริงในที่นอนแบ่งเป็นย่อยๆอยู่ 3 ประเภท
1. Pocket Spring เป็นระบบสปริงที่ดีทีสุดเนื่องจากสปริงทุกๆ ลูกจะถูกบรรจุอยู่ในถุงผ้าแยกกันลูกต่อลูก ซึ่งจะทำให้แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ระหว่างการนอนพลิกตัวไม่ถูกส่งไปรบกวนยังบริเวณข้างๆ อีกทั้งการยุบตัวของที่นอนจึงถูกจำกัดอยู่ในบริเวณที่รองรับน้ำหนักของผู้นอนเท่านั้น
2. Offset Spring เป็นระบบสปริงที่ลูกสปริงถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มพื้นที่ใน การยึดติดกันทำให้ที่นอนนั้นแน่นขึ้น และลดปัญหาเสียงรบกวนอันเกิดจากลูกสปริง ที่นอนสปริงประเภทนี้เป็นที่นิยมทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เนื่องจากมีความแข็งแรงและทรงตัวอยู่ได้นานกว่าสปริงแบบอื่น
3. Bonnell Spring เป็นระบบสปริงดั้งเดิม ถือกำเนิดมาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ในปัจจุบันเป็นลักษณะสปริงที่เป็นที่นิยมเพราะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำและมีคุณภาพพอใช้ได้ แต่มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้น
- ที่นอนยางพารา เป็นที่นอนที่ราคาแพงที่สุด อายุการใช้งานนานที่สุด คือประมาณ 10-15 ปี ให้ความรู้สึกนุ่มและแน่น ซึ่งที่นอนยางพารานั้นมีทั้งแบบที่เป็นยางพาราล้วนๆ ยางพาราผสมกับระบบสปริงหรือฟองน้ำ และที่นอนยางพาราสังเคราะห์ แต่ปัญหาของที่นอนประเภทนี้คือจะมีกลิ่นที่เป็นธรรมชาติของยาง น้ำหนักมาก และห้ามตากแดดเด็ดขาด เพราะยางจะเสีย ดูภาพเพิ่มเติมNoble Gable Watcharapol
ห้องนอนแบบห้องนอนแต่งห้องนอนตกแต่งห้องนอน ทริคง่ายๆ เคล็ดลับการเลือกซื้อชุดเครื่องนอน
การเลือกซื้อหมอน
ชนิดของหมอนจะใกล้เคียงกับที่นอน เพียงแต่ไม่มีแบบสปริง วิธีการเลือกหมอนไม่ว่าจะเป็นหมอนหนุนหรือหมอนข้าง มีหลักสำคัญในการเลือกซื้อ ก็คือการเลือกวัสดุที่ใช้นั่นเองค่ะ ซึ่งหมอนจะแบ่งตามประเภทของวัสดุได้ดังนี้ ดูภาพเพิ่มเติมNoble Gable Watcharapol
- หมอนใยสังเคราะห์ ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากดูแลรักษาง่าย และราคาไม่แพง มีความนุ่มหลายระดับให้เลือก คืนตัวได้เหมือนเดิม และสามารถรองรับคอและศีรษะได้ดี บางรุ่นพัฒนาให้ปราศจากไรฝุ่น ทำให้เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้ แต่ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น คือ ประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี
- หมอนนุ่น เป็นวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถระบายอากาศได้ดี สามารถซักทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ แต่หมอนประเภทนี้จะ ไม่สามารถคืนตัวได้ และจะนุ่มลงเรื่อยๆตามการใช้งาน
- หมอนใยไหม มีน้ำหนักเบา เป็นฉนวนไฟฟ้า หมอนจะมีความนุ่มปานกลาง หรือค่อนข้างแข็ง และไม่สามารถซักได้
ต้องใช้วิธีการตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อ
- หมอนขนสัตว์ มีทั้งขนนก ขนเป็ด และขนห่าน ซึ่งอย่างหลังจะมีราคาสูงที่สุด มีข้อดีคือทนทาน ให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม ฟู และ แน่น สามารถใส่ไส้เพิ่มได้เมื่อรู้สึกว่านิ่มเกินไป แต่มีข้อเสียคือไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นภูมิแพ้ และหมอนขนสัตว์มักไม่คืนตัว ก่อนล้มตัวลงนอนจึงควรจัดให้ได้รูปเสียก่อน สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้
- หมอนลาเท็กซ์หรือยางธรรมชาติ เป็นหมอนที่มีส่วนโค้งรองรับกระดูกต้นคอ ศีรษะ และหัวไหล่ ทำมาจากยางธรรมชาติจึงเหนียว และมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปลี่ยนรูปร่างเมื่อใช้งาน ควรเลือกประเภทที่มีรูพรุน เพื่อการระบายความร้อน เนื่องจากหากมีความร้อนมากน้ำยางอาจซึมออกมาเกิดเชื้อราได้ และควรหุ้มด้วยผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี
- หมอนธัญพืช เป็นวัสดุแนวใหม่ที่เริ่มมาแรง วัสดุที่ใช้มีทั้งเปลือกโซบะในญี่ปุ่น หรือบ้านเรามีหมอนชาเขียว เป็นหมอนที่สามารถถ่ายเทอากาศ และระบายความชื้นได้ดี แต่ต้องระวังแมลงและมีเสียงดังรบกวนบ้างเมื่อขยับตัว
ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน
การเลือกผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนให้กับเตียงและห้องนอนนั้น ขึ้นอยู่กับความละเอียดของผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน รวมถึงประเภทของผ้าถ้าคุณปูที่นอนเก่งอาจเลือกผ้าปูที่นอนแบบธรรมดา แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวก ก็สามารถเลือกแบบผ้าแบบรัดมุม ส่วนปลอกหมอนนั้น หลายคนมักเลือกให้เข้ากับผ้าปูที่นอน แต่สีและลายอาจจะไม่จำเป็นต้องเหมือนกันซะทีเดียว เพื่อความน่าสนใจ ผ้าที่ใช้ในการทำผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน มีดังนี้ค่ะ
- ผ้าฝ้าย เป็นผ้ายอดนิยมของคนส่วนใหญ่ เพราะระบายอากาศร้อนได้ดี ผ้าเนื้อนุ่มสบาย ถ้าเส้นใยทอแน่นมากๆ ผ้าจะเนื้อหนา
- ผ้าไหม หรูหรา เนียนนุ่ม ยิ่งใครชอบความลื่นพลิ้ว เป็นต้องถูกใจ แต่ดูแลรักษายาก ราคาค่อนข้างสูง
- ผ้าลินิน สวยงาม บางเบา แต่ยับง่าย ดูแลรักษายาก ราคาค่อนข้างสูง
- ผ้าใยสังเคราะห์ เดี๋ยวนี้มีแบบที่คุณสมบัติเหมือนผ้าฝ้ายทุกประการ แต่ไม่เป็นที่สะสมของไรฝุ่น และป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ ทั้งยังมีแบบที่มีคุณสมบัติเหมือนผ้าไหมด้วย แต่ดูแลรักษาง่ายกว่า และซักด้วยเครื่องซักผ้าได้
เครดิตแหล่งข้อมูล :forfur
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!