จะขายบ้าน … ทำไมต้องมีนายหน้า
คุณเคยเจอปัญหาเหล่านี้ไหม ?
"ลงประกาศขายบ้านนานแล้ว ทำไมไม่มีคนติดต่อมา" "เปิดบ้านหลายรอบแล้ว แต่ทำไมไม่มีคนซื้อ" "เวลาผู้ซื้อต่อรองราคา จะรับมืออย่างไร" "เวลาโอนบ้านต้องเตรียมเอกสารอย่างไรบ้าง"
การขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้าขาดความรู้ประสบการณ์ ก็จะไม่รู้เลยว่าการขายนั้นมีขั้นตอนกระบวนการอย่างไร ควรทำอย่างไร ขายให้ใคร ขายเท่าไร และไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบการขายหรือติดต่อประสานงานกับลูกค้า ซึ่งอาจทำให้การขายบ้านเป็นไปอย่างยากลำบากและเกิดผลกระทบในเวลาต่อมา ดังนั้นการขายบ้านผ่านนายหน้าหรือโบรกเกอร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ จะมีความเป็นมืออาชีพและผ่านการอบรมเรียนรู้งานมาเป็นอย่างดี เพื่อให้การดำเนินการขายเป็นไปอย่างราบรื่น
แต่การขายอสังหาริมทรัพย์ผ่านนายหน้า ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและรู้ขั้นตอนเป็นอย่างดีเพราะปัจจุบันนี้มีมิจฉาชีพที่แฝงตัวทำอาชีพนายหน้าอยู่มาก วันนี้ทางทีมงานคลังบ้านจึงมาแนะนำ "ขั้นตอนการขายบ้านผ่านนายหน้า" จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้นมาติดตามกันเลยค่ะ
ขั้นตอนการซื้อ-ขายบ้านผ่านนายหน้า / ตัวแทนอสังหาฯ
1. เลือกนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
อันดับแรกในการขายบ้านผ่านนายหน้าก็คือ คุณต้องทำการเลือกนายหน้าหรือโบรกเกอร์เจ้าที่ไว้วางใจได้ มีความเป็นมืออาชีพมีประสบการณ์การทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์มาเป็นอย่างดี สามารถให้คำปรึกษา คำแนะนำ ติดต่อสื่อสารได้ง่าย มีฐานข้อมูลลูกค้าสามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์ขายบ้านได้หลากหลายช่องทางมี ทักษะในการพูดที่ดีมีบริการครบวงจรจัดการทุกขั้นตอนได้อย่างเสร็จสรรพซึ่งทำให้คุณมีอิสระไม่เสียเวลาและไม่มีปัญหากวนใจตามมาทีหลัง
2. การทำสัญญานายหน้า
เมื่อทำการตกลงเลือกนายหน้าได้แล้วสิ่งสำคัญต่อมา ก็คือการทำสัญญานายหน้าซึ่งจะไม่มีรูปแบบที่ตายตัวแต่ส่วนใหญ่แล้วในหน้าหรือบริษัทก็จะมีแบบฟอร์มของสัญญาเป็นมาตรฐานอยู่แล้วซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือสัญญาแบบเปิดและสัญญาแบบปิด ดังนั้นคุณต้องอ่านเนื้อหาและข้อมูลในสัญญาอย่างละเอียด ดูเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงความรับผิดชอบในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญาเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
3. การตีราคาอสังหาริมทรัพย์
ราคาอสังหาฯ ถือว่าเป็นตัวแปรหลักที่ดึงดูดให้ผู้สนใจเข้ามาซื้อบ้าน โดยปกติแล้วนายหน้าจะเข้ามาช่วยประเมินราคาบ้านว่าควรตั้งราคาเท่าไร โดยดูจากทำเลที่ตั้ง สภาพของบ้าน สาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เปรียบเทียบราคาตลาดกับบ้านละแวกใกล้เคียง หรือเช็คจากราคาประเมิน เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้นายหน้ายังสามารถช่วยแนะนำการเพิ่มมูลค่าของบ้านด้วยการให้คุณปรับปรุงซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำความสะอาด ตกแต่งให้ดูสวยงาม เพราะคงไม่มีใครที่อยากซื้อบ้านในสภาพที่ทรุดโทรม ดังนั้นการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายบ้านได้เร็วยิ่งขึ้น
4. การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ขายบ้าน
นายหน้าส่วนใหญ่จะมีฐานข้อมูลและรู้จักช่องทางการขายเป็นอย่างดีโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการลงประกาศหรือหาลูกค้าด้วยตัวเอง ซึ่งนายหน้าแต่ละคนก็มีช่องทางการลงประกาศแตกต่างกันไป ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ อาทิการปักป้ายประกาศ การลงประกาศผ่านเว็บไซต์ ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ตลอดจนหาพื้นที่ว่างตามสื่อต่างๆ ลงโฆษณา เพื่อให้คนเห็นประกาศเป็นจำนวนมากและเกิดการซื้อขายบ้านได้อย่างรวดเร็ว
5. พาชมบ้าน
เมื่อประกาศขายบ้านจนมีผู้ซื้อสนใจติดต่อเพื่อขอดูบ้านนั้น นายหน้าก็จะเป็นตัวกลางนัดหมายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายเพื่อขอเข้าดูบ้านจริง โดยที่เจ้าของบ้านจะไปหรือไม่ไปด้วยก็ได้แต่สิ่งที่เจ้าของบ้านควรทำคือการจัดตกแต่งบ้านให้สะอาด อยู่ในสภาพที่เหมาะสมก่อนการเปิดบ้านให้ผู้ที่สนใจเข้าชม เพื่อความประทับใจแรกในการพบเห็น และนำมาซึ่งการตัดสินใจซื้อ
6. เสนอและต่อรองราคา
ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยทักษะการสื่อสาร วิธีการโน้มน้าวใจรวมถึงประสบการณ์การขายของนายหน้า เพื่อเป็นตัวกลางเจรจาต่อรองราคาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ให้ได้รับความพึงพอใจทั้งสองฝ่ายดังนั้นถ้าหากผู้ซื้อต่อราคา นายหน้าต้องมีเทคนิคในการรับมือได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้นายหน้าจะดำเนินการเรื่องเอกสารสัญญาจะซื้อจะขายรวมถึงตกลงวางเงินมัดจำตามที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันเพื่อเป็นการจองบ้านไว้
7. เตรียมค่าใช้จ่ายและเอกสารการโอน
ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ถือเป็นขั้นตอนที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก อ่านเข้าใจยาก เป็นความรู้ที่ค่อนข้างเฉพาะทางมีกฎหมายและเอกสาร รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ นายหน้าจะมีความรู้และเชี่ยวชาญมากกว่าและนายหน้าจะเป็นคนดูแลให้เรา เช่น การดำเนินการนัดหมาย คำนวณค่าธรรมเนียม ภาษี และการตรวจสอบเอกสารต่างๆเพื่อให้การดำเนินการโอนอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างราบรื่น
8. จ่ายค่านายหน้าขั้นตอนสุดท้าย
หลังจากที่ดำเนินการขายบ้านจนเสร็จสิ้นแล้วสิ่งต่อมาที่ต้องทำ คือการจ่ายค่านายหน้า ซึ่งโดยปรกติทั่วไปค่านายหน้าจะอยู่ที่ 3% ของราคาขายจริง (สามารถต่อรองกันได้) กล่าวคือราคาบ้านสูงเท่าไรค่านายหน้าก็สูงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ซึ่งก็เป็นไปตามสัญญาที่ระบุไว้ตั้งแต่ต้น
จะเห็นได้ว่าการใช้บริการนายหน้าเพื่อขายอสังหาริมทรัพย์ จะได้รับความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับการเลือกนายหน้ามาทำงานให้กับเราด้วย เพราะถ้าเราได้นายหน้าที่มีความเป็นมืออาชีพสูง ทุกขั้นตอนก็จะสะดวกสบายและการดำเนินการขายก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากโชคร้ายได้นายหน้ามือสมัครเล่นหรือมิจฉาชีพที่มีกระบวนการฉ้อโกง จะทำให้การขายบ้านเกิดปัญหาตามมามากมาย ดังนั้นการเลือกในหน้ามาร่วมงานด้วยนับเป็นสิ่งสำคัญ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!