รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการซื้อบ้านหลังแรก
1. ‘ไหวไหม?' ถามทั้งสุขภาพใจและสุขภาพการเงินตัวเองดู
ในช่วงแรกของการเลือกซื้อบ้าน หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่า การซื้อบ้านหลังแรกนั้นต้องทำอะไรบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำถามแรกที่คนอยากมีบ้านทุกคนควรเลือกถามตัวเองเป็นคำถามแรก คือ การซื้อบ้านหลังแรกนั้นต้องมีเงินเท่าไหร่ และตัวของเรานั้นมีกำลังมากพอที่จะเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าการซื้อบ้านหลังแรกหรือหลังไหน ๆ ก็ย่อมเป็นการลงทุนด้วยเงินมหาศาลทั้งสิ้น
โดย Baania อยากให้คุณเช็ก ‘ความไหว' ทางการเงินของตัวเองตามเช็กลิสต์นี้:
1. ลองกลับมาดูสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองก่อนว่าคุณจ่ายเงินสดซื้อบ้านทั้งหมดไหวไหม ถ้าไหว การครอบครองบ้านหลังแรกนี้ก็จะช่วยให้คุณไม่มีภาระหนี้สินเพิ่ม
2. แต่หากไม่ไหวแล้วจำเป็นต้องกู้ หรือทำสินเชื่อบ้านเพิ่มเติม คุณก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่า คุณจะสู้ไหวไหม หากต้องจ่ายเงินค่างวด 7,000 บาท / เดือน สำหรับยอดกู้ 1 ล้านบาทในระยะเวลา 30 ปี ซึ่งหากดูตัวเลขต่อเดือนหลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกว่าผ่อนไหวแน่ ๆ แต่อย่าลืมว่า ยอดหนี้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคุณจะต้องไม่เกิน 50 - 80% ของรายได้ อีกทั้งยังต้องพิจารณาอีกด้วยว่า การซื้อบ้านหลังแรกในปี 2565 และปีต่อ ๆ ไปนั้น ค่าบ้านก็จะขยับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และยอดกู้ก็อาจสูงเกิน 1 ล้านบาทจนทำให้ค่างวดในแต่ละเดือนสูงกว่า 7,000 บาทก็เป็นได้
2. อย่าดูแค่ความสวยของบ้าน ให้ดู ‘วิถีชีวิต' ของตัวเองด้วย
แน่นอนว่าปัจจัยแรก ๆ ที่คนมักพิจารณาในเวลาซื้อบ้านหลังแรกย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘ดีไซน์' ของบ้าน แต่อย่างไรก็ดี เพื่อมอบความสบายใจและความสะดวกในการใช้ชีวิต Baania อยากขอแนะนำให้คนอยากมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองลองพิจารณาถึง ‘วิถีชีวิต' ที่สอดคล้องกับ ‘ทำเล' ร่วมด้วย
จริงอยู่ว่า เมื่อคุณมีบ้านของตัวเอง คุณจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีใครว่า ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดกฎหมาย กฎของหมู่บ้าน และตราบเท่าที่คุณยังทำสิ่งเหล่านั้นในเขตบ้าน และไม่กระทบกับคนภายนอก แต่อย่างไรก็ดี Baania อยากขอให้ทุกคนลองคิดในอีกมุมว่า ชีวิตของเรานั้นไม่ได้อยู่กับบ้านตลอดเวลา ซึ่งต่อให้เราจะทำอะไรในบ้านของเราเองโดยไม่กระทบกับคนอื่น แต่หากบ้านมีทำเลที่ไม่ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตด้านอื่น ๆ อาทิ การเดินทางไปทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนสถานที่ที่ต้องไปติดต่อหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น แน่นอนว่าบ้านหลังแรกที่เลือกซื้อย่อมอาจไม่ได้ช่วยทำให้สุขกายสบายใจได้เต็มที่เช่นกัน ดังนั้น จะซื้อบ้านทั้งทีก็ควรคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย ขนาดบ้าน ตลอดจนทำเลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณด้วยเช่นกัน
3. ฮวงจุ้ยบ้านดี มีสุขได้ทั้งครอบครัว
‘ฮวงจุ้ย' คือ อีกหนึ่งปัจจัยที่ Baania อยากแนะนำอย่างมากหากถามว่าการซื้อบ้านหลังแรกนั้นต้องทำอะไรบ้าง เพราะลองคิดดูง่าย ๆ หากคุณต้องควักเงินเก็บออกมาบางส่วนหรือทั้งหมดเพื่อบ้านหลังแรก คุณก็คงอยากได้บ้านที่ดี ตอบโจทย์ชีวิต และเพิ่มความเป็นมงคลให้กับชีวิตได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านจริง ๆ ก็คงไม่เป็นการเสียเวลาสักเท่าใดนักหากจะเข้ามาเลือกดูฮวงจุ้ยของบ้านเพิ่ม โดยคุณอาจพิจารณาว่าบ้านหลังที่สนใจนั้นอยู่ตรงไหนของโครงการ มีมุมอับตรงไหน มีเรื่องใดที่ต้องระวัง อยู่ใกล้ส่วนกลาง ใกล้ทางออกหรือเปล่า โดย Baania ไม่อยากให้คุณมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป เพราะนี่จะเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเผชิญไปตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านนั่นเอง
4. เลือกทำเลที่สะดวกทั้ง ‘กาย' และ ‘ใจ'
เมื่อพูดถึงการซื้อบ้านหลังแรกสำหรับมนุษย์เงินเดือน แน่นอนว่า ‘ทำเล' ย่อมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยแรก ๆ ที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญ แต่อย่างไรก็ดี การเลือกทำเลใกล้ที่ทำงานก็ไม่ได้ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะนอกจากจะต้องฝ่าการจราจรในแต่ละวันแล้ว การมีบ้านในเมืองชั้นในอาจทำให้รู้สึกอึดอัดจากสภาพแวดล้อมที่หนาแน่นไปด้วยตึกและฝุ่นควัน อีกทั้งการเลือกบ้านในเมืองที่ติดถนนมาก ๆ ยังมาพร้อมกับมลภาวะทางเสียงจนทำให้มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ แถมยังควบคุมความเป็นส่วนตัวในพื้นที่บ้านได้ยาก
ด้วยเหตุนี้ Baania อยากให้ทุกคนลองกลับไปถามตัวเอง และลองคิดให้ละเอียดก่อนว่า หากต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นเป็นเวลานาน ๆ สุขภาพกายและใจของเราจะไหวหรือไม่ ซึ่งหากใครคิดว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้ไปตอบโจทย์ การเลือกซื้อบ้านหลังแรกที่ขยับออกมาจากตัวเมืองชั้นในเสียหน่อย แต่มีการเดินทางเข้าออกสะดวกก็น่าจะพอทดแทนได้
5. ไม่ว่าบ้านจะใหม่แค่ไหน แต่ ‘ทุกพื้นที่' มีประวัติที่เราอาจไม่รู้
การเลือกซื้อบ้านที่เหมาะสมกับเรา ไม่เพียงแต่จะเสาะหาข้อมูลว่าบ้านเดี่ยว เท่านั้น แต่คนมีบ้านแบบเรา ๆ ยังต้องพิจารณาถึงประวัติของทำเลที่สนใจด้วย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรกในปี 2565 นี้หรือปีไหน ๆ ก็อย่าลืมค้นหาว่า พื้นที่ในดวงใจของคุณมีประวัติอย่างไรบ้าง เคยประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ปีไหนบ้าง มีโอกาสเกิดหลุมยุบ หรือมีสภาพแวดล้อมที่ถูกต้องตามใจคุณมาก-น้อยเท่าใด เพราะหากอยู่ไปสักพัก เจอน้ำท่วม หรือบ้านทรุดขึ้นมา ก็คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่
6. เช็กรายละเอียดให้ครบ ตั้งสติก่อนเซ็นชื่อให้ดี
สำหรับการซื้อบ้านหลังแรกในช่วงที่ผ่านมา หลายคนอาจเข้าใจว่า การซื้อบ้านหลังแรกสามารถลดหย่อนภาษีได้ 20% ของราคาบ้านที่ซื้อมาในระยะเวลาเฉลี่ย 5 ปี แต่สิทธิ์การลดหย่อนนี้สามารถใช้ได้จนถึงปีภาษี 2562 หรือ 2563 เท่านั้น ซึ่งสำหรับการซื้อบ้านหลังแรกในปี 2565 นั้นยังต้องรอพิจารณาถึงเงื่อนไขทางภาษีอื่น ๆ เพิ่มเติมภายหลัง
เครดิตแหล่งข้อมูล : baania