5 เรื่องต้องรู้สำหรับคนอยากกู้ซื้อคอนโด!
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อคอนโด มีหลายองค์ประกอบสำคัญที่คุณต้องศึกษาข้อมูล เพราะการผ่อนคอนโดหนึ่งห้อง จะต้องใช้เงินและระยะเวลาในการผ่อนต่อเนื่องหลายปีกว่าจะผ่อนหมด ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าคุณมีความมั่นคงทางการเงินมากพอตามคุณสมบัติดังนี้
ความมั่นคงของอาชีพ
คุณต้องมั่นใจว่าอาชีพที่คุณทำอยู่ในปัจจุบันสามารถให้ความมั่นคงทางการเงินกับคุณ เป็นงานที่คุณมั่นใจว่าจะทำอาชีพนี้ไปได้นาน ๆ และคุณไม่มีแผลนที่จะลาออกจากงาน เพราะการซื้อคอนโดนด้วยเงินผ่อน เป็นการลงทุนระยะยาวและต่อเนื่อง ซึ่งคุณต้องมีเงินหมุนเวียนในบัญชีตลอดระยะการผ่อนคอนโด ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด คุณจำเป็นต้องมีอาชีพที่มั่นคงเพื่อให้แน่ใจได้ว่าในอนาคตคุณจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินตามมา
รายได้ประจำแต่ละเดือน
การผ่อนคอนโดจะต้องทำสัญญาผ่อนจ่ายทุกเดือน เท่ากับว่าคุณต้องดึงเงินส่วนหนึ่งจากเงินเดือนของคุณมาจ่ายค่าคอนโด คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีสภาพคล่องทางการเงินที่ค่อนข้างดีเพื่อให้มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งเดือน ดังนั้นคุณต้องมีรายได้ประจำทุกเดือนมากพอเพื่อไม่ให้การผ่อนคอนโดของคุณติดขัด
ธุรกิจควรประสบความสำเร็จประมาณหนึ่ง
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณต้องมั่นใจว่าธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและมีความมั่นคงทางการเงิน มีรายรับมากพอที่จะผ่อนคอนโดทุกเดือน เพราะการทำธุรกิจมีความเสี่ยงที่จะล้มละลายหรือขาดทุนสูง ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าธุรกิจของคุณจะไม่มีผลกระทบด้านการเงิน
สภาพเศรษฐกิจ
สภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุนซื้ออะไรก็ตามที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะเศรษฐกิจสามารถเป็นตัวบ่งชี้ความมั่นคงทางการเงินของคุณได้เช่นกัน และยิ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วน หลายบริษัทปิดตัวลง ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเก็บออมและใช้จ่ายน้อยลง ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าหากเกิดสภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวลง สภาพคล่องทางการเงินของคุณจะไม่ถูกกระทบตามไปด้วย
2. รู้รายละเอียดและข้อมูลคอนโด
การซื้อคอนโดถือว่าเป็นการลงทุนเงินก้อนใหญ่และมีการผ่อนในระยะยาวนานหลายปี ดังนั้นก่อนเซ็นสัญญาซื้อขาย คุณจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของโครงการคอนโดนั้น ๆ อย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคอนโดดังกล่าวตรงตามความต้องการของคุณจริง ๆ ดังนั้นคุณสามารถเช็คคุณสมบัติของคอนโดเบื่องต้นได้ดังนี้
เลือกคอนโดที่ตรงใจ
6 สิ่งที่คุณควรเช็คเพื่อให้แน่ใจว่าคอนโดที่คุณเล็งไว้ตรงใจคุณจริงหรือเปล่า
1. สภาพคอนโด
คุณต้องเดินดูบริเวณโดยรอบสถานที่จริงของคอนโดนั้น ๆ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อเช็คดูว่าสภาพคอนโดใหม่หรือเก่า มีสิ่งผุพังหรือไม่ และความสะอาดของคอนโดมีมากน้อยเพียงใด
2. ทำเล
ทำเลที่ดีคือ ต้องอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดิน เพราะหลายคนที่ตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดมักต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในเมืองและความสะดวกสบายในการเดินทาง และที่สำคัญบริเวณรอบคอนโดจะต้องไม่มีโรงงานหรือสถาบันเทิง เพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศและมลพิษทางเสียง
3. ราคาและโปรโมชั่น
ทางโครงการมักจะออกโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าโดยการ ลด แลก แจก แถม ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างมาก แต่ก่อนที่คุณจะได้รับโปรโมชั่นเหล่านั้น คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนโดดังนี้
เงินจอง
ค่าใช้จ่ายในการวางเงินจองห้องขึ้นอยู่กับราคาห้องของโครงการนั้น ๆ โดยส่วนใหญ่การวางเงินจองจะอยู่ที่ 10,000 บาทขึ้นไป
สัญญาซื้อขาย
ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 10% ของราคาห้อง เช่น ราคาห้อง 2,000,000 บาท ค่าทำสัญญาจะอยู่ที่ 200,000 บาท เป็นต้น
4. สิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดของใครหลาย ๆ คน คอนโดที่ดีจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่ครบครัน ดังนี้ ฟิตเนต สระว่ายนํ้า ห้องอบซาวหน้า สวนหย่อม และห้องรับรอง เป็นต้น
5. ระบบความปลอดภัย
คอนโด 1 โครงการมีหลายห้องและมีลูกบ้านหลายคน ทางคอนโดจะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีระบบการตรวจสอบคนเข้าออกคอนโด ใช้คีย์การ์ดในการเข้าออกที่จอดรถ คีย์การ์ดเข้าตึก และคีย์การ์ดเข้าห้องแยกกันอย่างชัดเจน มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินตรวจเป็นประจำ และมีกล้องวงจรติดทั่วบริเวณทั้งภายในและภายนอกคอนโด
6. นิติบุคคล
นิติบุคคลที่ดีต้องมีใจรักการบริการ พูดจาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจทำงาน พร้อมให้คำปรึกษาลูกบ้าน และ แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
เลือกคอนโดที่น่าเชื่อถือ
ก่อนเลือกซื้อคอนโดคุณต้องแน่ใจว่าโครงการดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งเบื่องต้นคุณสามารถเช็คได้ดังนี้
1. ผู้ประกอบการ
คุณต้องตรวจสอบประวัติและโครงการในเครือที่ผ่านมาของผู้ประกอบการคนดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการก่อน ๆ ไม่เคยมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
2. โครงการผ่าน EIA
EIA หรือ Environmental Impact Assessment คือ การประเมินผลกระทบของโครงต่อสิ่งแวดล้อมทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งโครงการจะต้องผ่านการประเมิน EIA จึงจะสามารถสร้างคอนโดต่อให้เสร็จได้ แต่ถ้าหากโครงการดังกล่าวไม่ผ่านการประเมิน EIA โครงการนั้นจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการสร้าง หรืออาจจะต้องยุติการสร้างไปเลย
3.รู้วงเงินกู้สำหรับกู้ซื้อคอนโด
ก่อนการกู้ซื้อคอนโดคุณจะต้องรู้ก่อนว่าตัวคุณเองสามารถขอสินเชื่อซื้อคอนโดได้กี่บาท ซึ่งเงินกู้ไม่ได้ถูกคิดจากเงินเดือนที่คุณได้รับโดยตรง จะต้องมีการคำนวนจากทางธนาคารและคิดเปอร์เซ็นต์การปล่อยกู้ให้คุณ รวมไปถึงวงเงินการชำระดอกเบี้ย ซึ่งคุณสามารถดูข้อมูลการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน หรือ คอนโดเบื่องต้นด้วยตัวเองก่อนได้ โดยการนำรายได้รวมและภาระหนี้ทั้งหมดมาลองคำนวณดังนี้
ตัวอย่าง รายได้รวมทั้งหมด 50,000 บาท
ภาระหนี้ทั้งหมด หาค่า 12,000 บาท
วิธีคิด นำรายได้รวมทั้งหมดมาคิดภาระหนี้ที่สามารถแบกรับได้ 50,000 * 60% = 30,000 บาท
นำมาหักภาระหนี้ทั้งหมด 30,000 - 12,000 = 18,000 บาท
ถ้าค่างวดผ่อนล้านละ 6,500 บาท เท่ากับ 18,000 หาร 6,500 บาท = 2.7 ล้าน
สรุป คุณสามารถกู้ซื้อคอนโดหรือบ้านได้ที่ราคา 2.7 ล้านบา
4.รู้เครดิตการเงินของตัวเอง
การจะทำเรื่องกู้ซื้อคอนโดคุณต้องแน่ใจก่อนว่าไม่ได้ติดแบล็คลิส และชื่อของคุณไม่ได้ขึ้นบัญชีดำด้านการเงินกับธนาคารใด เพราะการที่คุณจะกู้ธนาคารซื้อคอนโด ประวัติด้านการเงินของคุณจะต้องดี เพื่อง่ายต่อการปล่อยเงินกู้ของทางธนาคาร โดยเฉพาะการติดเครดิตบูโร (Credit Bureau) ซึ่งทางสถาบันการเงินไม่อนุญาตให้คุณทำสินเชื้อได้ หากคุณอยากทราบว่าชื่อของคุณติดเครดิตบูโรหรือไม่ คุณสามารถนำบัตรประชาชนไปตรวจได้ที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ
5.รู้อัตราดอกเบี้ย
ข้อควรรู้ก่อนขอสินเชื่อซื้อคอนโดคือเรื่องเกี่ยวกับดอกเบี้ย โดยอัตราดอกเบี้ยมี 4 ประเภท ดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating rate)
ดอกเบี้ยลอยตัว คือ ดอกเบี้ยที่ไม่คงที่ มีการผันแปรอยู่เสมอ โดยจะขึ้นอยู่กับกลไกการตลาด การเงิน เศรษฐกิจ เทรนด์หุ้นในช่วงนั้น
2. อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate)
อัตราดอกเบี้ยคงที่ คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ในระยะยาว ซึ่งขึ้นอยู่กับทางธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อว่าจะทำสัญญากู้ยืมดอกเบี้ยเท่าไหร่
3. อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา (Rollover Mortgage)
อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา คือ การทำสัญญากู้ระยะยาว 10 ปีขึ้นไป ซึ่งทุก ๆ 1 - 5 ปี ทางธนาคารจะมีการปรับดอกเบี้ยสูงต่ำขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินของธนาคารในช่วงนั้น
4. อัตราดอกเบี้ยแบบผสม (Rollover Mortgage Loan)
อัตราดอกเบี้ยแบบผสม คือ ช่วง 1 - 3 ปีแรกจะเป็นการทำสัญญาดอกเบี้ยแบบคงที่ เมื่อเริ่มเข้าปีที่ 4 สัญญาการกู้ยืมจะปรับเป็นดอกเบี้ยไม่คงที่เครดิตแหล่งข้อมูล : tb.co.th